I am falling in love with you
บ้านaf4
ผู้เข้าชมรวม
239
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ตัวละคร
นัท-พี่ชายคนโตของตระกูล หมอผ่าตัดเกียรตินิยมอันดับ 1
ต้อล-พี่ชายคนกลาง เจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้างบ้าน
มิวสิค-น้องชายคนเล็ก นักศึกษาวิชาดนตรี
อิ๋งอิ๋ง- พี่สาวคนโตของครอบครัว ครูฝึกสอนการร้องเพลง
ปุยฝ้าย-พี่สาวคนกลาง อินทีเรียมือหนึ่ง
ลูกโป่ง- น้องสาวคนเล็ก นักศึกษาแพทย์ อยากเป็นผู้ช่วยหมอนัท
ตอนที่ 1 เพราะเธอ(ใช่ไหม)
โรงพยาบาลชื่อดังในกรุงเทพ
“คุณหมอคะ มีคนไข้
“อาการเป็นไงบ้าง”ฉุกเฉินเข้ามาค่ะ”หมอและพยาบาลกำลังเดินไปห้องฉุกเฉิน
“ถูกรถชนค่ะมีเลือดไหลออกมาจากแผลที่ศรีษะไม่หยุด ช่องท้องบวมคาดว่าอวัยวะภายในฉีกขาดด้วยค่ะ”
“เตรียมเครื่องมือผ่าตัดได้เลย”
เวลาผ่านไป 3 ชั่วโมง
“หมอคะมี นักศึกษาแพทย์มาขอสมัครเป็นผู้ช่วยในการผ่าตัดค่ะ
นี่แฟ้มประวัตรกับผลงาน”พยาบาลยื่นแฟ้มให้หมอ
“อีกซักพักค่อยเรียกเข้ามาก็แล้วกัน ฉันอยากพักก่อน”
“ได้ค่ะหมอ”พยาบาลเดินออกจากห้องทำงานของหมอ
หมอเดินออกไปนอกห้อง เค้ากำลังจะเดินไปหาอะไรทานแต่ก็ต้องมาสะดุดตากับหญิงสาว ที่นั่งตัวสั่นอยู่หน้าห้องทำงานของเขา
“คุณเป็นอะไรครับ”หมอเดินเข้าไปถาม
“กลัวค่ะ”เธอพูดน้ำเสียงสั่ง แล้วค่อยๆเงิยหน้าขึ้นมามองหน้าหมอ
“คุณหมอนัท”เธอพูดเสียงดัง
“ก็ใช่น่ะสิ คุณกลัวอะไรหรอ”
“กลัวคุณนั้นแหล่ะ”
“กลัวอะไรผมล่ะ”
“ก็กลัวคุณไม่รับฉันเข้าทำงานไง”
“อ๋อ คุณคงเป็นคนที่มาสมัครเป็นผู้ช่วยผมสินะ ถ้าไม่รังเกียจ ไปกินข้าวกันก่อนไหม ผมผ่าตัดคนไข้ฉุกเฉินตั้งแต่เช้า ยังไม่ได้กินอะไรเลย”
“ไม่รังเกียจเลยค่ะคุณหมอนัท”
ร้านอาหารในโรงพยาบาล
“คุณชื่อภคมนใช่ไหม”หมอนัทพูด
“ค่ะ”
“แล้วชื่อเล่นล่ะ”
“ลูกโป่งค่ะ”เธอพูดเกร็งๆ
“พยาบาลบอกว่าคุณเจาะจงจะสมัครเป็นผู้ช่วยของผม มีเหตุผลอะไรหรอ”
“ฉันชื่นชมผลงานของคุณค่ะ เลยอยากร่วมงานด้วย”เธอไม่มองหน้าหมอนัท
“คนที่ร่วมงานกับผมต้องมีความมั่นใจและกล้าที่จะทำ ไม่ใช่นั่งก้มหน้าแบบนี้”หมอนัทเริ่มดุ
“ขอโทษค่ะคุณหมอนัท”ลูกโป่งเงยหน้าขึ้นมาทันที
เค้ามองหน้าเธอนิ่งๆ เธอดูสวยอย่างลึกลับ น่าค้นหา น่ารู้จัก
“ห้ามแสดงอาการไม่มั่นใจให้ผมเห็นอีก มันไม่ใช่สิ่งที่ควรจะกระทำให้คนไข้เห็น เราต้องแสดงความมั่นใจ และน่าเชื่อถือให้คนไข้ไว้ใจเรา ผมหวังว่าคุณจะเข้าใจนะ”
“ค่ะคุณหมอนัท”
“แล้วคุณก็ไม่ต้องเรียกผมว่าคุณหมอนัท เรียกว่าหมอนัทก็พอ”
“ค่ะคุณหมอนัท เอ๊ย หมอนัท”
“คุณพร้อมจะเริ่มทำงานวันไหนล่ะ”
“วันนี้เลยก็ได้ค่ะ”
“ไฟแรงจริงๆนะ พรุ่งนี้ 6 โมงเช้าคุณรอผมที่ห้องทำงาน ผมจะอธิบายงานต่างๆที่คุณต้องทำ ไม่ทราบว่าสะดวกจะเข้าเวรตอนกลางคืนไหม”
“ได้ค่ะ บ้านฉันอยู่ใกล้ๆนี่เอง”
“ดีๆ ผมจะจัดเวรให้ไม่ทุกวันหรอก แล้วก็ไม่ต้องกลัวด้วย วันที่คุณอยู่เวรผมจะมาอยู่ด้วย คุณยังต้องศึกษางานอีกมาก เตรียมใจไว้ให้ดี ผมขอตัวก่อนนะ มีงานต้องทำอีกเยอะ”
หมอนัทเดินกลับไปทำงาน
ร้านรับเหมาอุปกรณ์ก่อสร้าง
“เจ้านายครับ มีนักธุรกิจอยากตกแต่งภายในครับ”
“ได้แล้วเค้านัดวันไหนล่ะ”
“ตอนบ่ายวันนี้ครับ”
“ได้ๆ เตรียมอุปกรณ์ไว้ด้วย”
บ้านนักธุรกิจ
“คุณอยากได้เป็นสไตล์ไหนดีคะ”
“แบบไหนก็ได้ครับ ให้เหมาะกับบ้านก็พอ ”
ปุยฝ้ายจดรายละเอียดในสมุด
“คุณปุยฝ้าย นี้คุณต้อลผู้รับเหมา เชิญออกแบบกันตามสบายนะครับ ผมมีธุระต้องไปทำก่อน”
“ได้ยินชื่อคุณมานานนะครับ คุณปุยฝ้าย ดีใจจริงๆที่ได้ร่วมงานกับคุณ”
ปุยฝ้ายยังไม่สนใจต้อล เธอจดรายละเอียดลงในสมุดยิกๆ
“ขอบคุณค่ะคุณต้อล ดูที่ด้านบนก่อนดีกว่าค่ะ”เธอเงยหน้าขึ้นมา
เค้ามองเธอตาไม่กระพริบ
“น่ารักจัง”ต้อลพูดในใจ
ทั้ง 2 คนช่วยกันออกแบบตามส่วนต่างๆของบ้าน
2 ชั่วโมงผ่านไป
“ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ มีงานที่อื่นต่อ”ปุยฝ้ายกำลังจะเดินขึ้นรถtaxi
“เดี๋ยวก่อนครับ ผมขอเบอร์โทรศัพท์คุณได้ไหมครับ เผื่อทางนี้มีปัญหาอะไรจะได้ติดต่อคุณได้”
“เอาโทรศัพท์มาสิคะ”เธอยิ้มน้อยๆ
ต้อลยื่นโทรศัพท์ให้ปุยฝ้าย
“นี่ค่ะ ถ้ามีอะไรโทรมาได้ตลอดนะคะ”เธอยื่นโทรศัพท์คืนให้เค้าแล้วนั่งรถออกไป
“เจ้านาย ชอบหรอ”ลูกน้องถามต้อล
“ใช่ น่ารัก เก่งด้วย เอ๊ย ไม่ต้องมายุ่งเรื่องของฉันไปทำงานไป”
มหาลัย
“อาจารย์ธุรดีคะ คือมีเพื่อนของหนูอยู่คนนึงค่ะเค้า ร้องเพลงไม่เป็น เลยอยากให้ครูสอน เค้าอยู่เอกกีต้าร์ค่ะ”นักเรียนหญิงคนหนึ่งถามอิ๋งๆ
“ได้สิ ถ้าจะเรียนตอนนี้เลยก็ได้ครูว่างพอดี”เธอตอบอย่างเป็นมิตร
“ค่ะครู”
“ให้เค้าไปรอครูที่ห้องวอยซ์นะ เดี๋ยวจะตามไป”
ห้องวอยซ์
“บอกแล้วไงว่าฉันไม่ชอบร้องเพลง จะพามาเรียนทำไมให้เสียเวลา”
“เอาน่า มิวสิค เรียนดนตรีแล้วก็ต้องหัดร้องเพลงไว้บ้างสิ อาจารย์มาพอดีเลย”
เธอเปิดประตูเข้ามา
“อาจารย์คะ นี่รัชพลค่ะ หนูขอตัวก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวสิอยู่เป็นเพื่อนฉันก่อน”มิวสิคดึงพะแพงไว้
พะแพงแกะมือออกแล้ววิ่งออกไปนอกห้อง
“เธอลองร้องเพลงให้ครูดูซักเพลงได้ไหม”
“ผมไม่ชอบร้องเพลง เพื่อนผมบังคับมา”
“ดนตรีเป็นเรื่องของความรัก ถ้าไม่รัก เรียนไปก็เปล่า เธอกลับไปเถอะ”
แววตาที่ดูลึกลับของเธอจ้องมาที่เค้า
เธอกำลังจะเดินออกจากห้อง
“เดี๋ยวก่อนครับอาจารย์ ผมจะเรียนครับ ขอโทษด้วยที่ผมพูดแรงไป”
หน้าตาของเธอสดใสขึ้น
“ไม่เป็นไรหรอก”
“อาจารย์มีชื่อเล่นไหมครับ”
“ครูชื่ออิ๋งๆเธอล่ะ”
“ผมมิวสิคครับ”
“เธอเล่นกีต้าร์เป็นอยู่แล้วไม่น่าจะยาก ลองร้องให้ครูฟังซักเพลงสิ”
มิวสิคหยิบกีต้าร์ที่เขาหิ้วมาขึ้นมาเล่น
“ผมร้องไม่ค่อยเพราะหรอกนะครับ”
***ก่อนมันจะสาย...ไปก่อน
ขอฉันได้บอกถ้อยคำบางอย่าง
อาจไม่ฟังจับใจ
แต่มันมาจากส่วนลึกที่มี
อยากบอกว่ารัก...ที่สุด
ถึงแม้เวลาของเราเหลือน้อยลง ...ทุกที
ขอพูดคำหนึ่งคำนี้... เท่าทีเวลายังเหลือพอ***
“ครูว่าเธอไม่ได้ร้องเพลงไม่เป็นหรอก เธอไม่ร้องเองมากกว่า ครูไม่ต้องสอนเธอหรอก”
“ผมยังร้องไม่ได้เลยนะ ครูสอนผมก่อนสิ”
“ได้ๆ เธออยากร้องเพลงอะไรก็ร้องมา ถ้าไม่ดีครูจะช่วยสอนให้ โอเคไหม”
“ครับๆ ขอบคุณนะครับ”
“ครูกลับก่อนนะ เอาไว้ว่างเราค่อยมาเรียนกันอีก”
“ครูกลับยังไงครับ กลับกับผมไหมผมมีรถ”
“มันจะดีหรอ”
“ก็ถือว่าผมตอบแทนที่ครูเสียเวลามาสอนผมก็แล้วกันนะครับ อย่าคิดมากสิครับ”
“ก็ได้จ่ะ”
ตอนที่ 2 เปลี่ยน
บ้านเล็กๆชานเมือง
ลูกโป่งวิ่งเข้ามาโผกอดปุยฝ้าย
“พี่ฝ้าย พี่ฝ้าย หมอนัท หมอนัทเค้ารับลูกโป่งเข้าทำงานแล้ว”
“ดีๆ น้องสาวของพี่เก่งที่สุดเลย”
“พี่อิ๋งมายังอ่ะคะ”
“ยังเลยอีกไม่นานคงกลับ พี่เค้าโตแล้วไม่ต้องเป็นห่วงมากหรอก”
“ค่าๆ แล้ววันนี้พี่ฝ้ายไปไหนมาคะ”
“ก็ไปทำงานปกติ ถามทำไมล่ะ”
“ก็ตั้งแต่ลูกโป่งกลับมาพี่ฝ้ายยังยิ้มไม่หุบเลยนะ ปิ๊งหนุ่มที่ไหนมาล่ะสิ”
“เปล่าซักหน่อย”ฝ้ายทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
------------0899999999 calling---------
โทรศัพท์ของฝ้ายดังขึ้น
“ฮัลโล ปุยฝ้ายพูดค่ะ”
“คุณปุยฝ้าย ผมต้อลเองครับ”
“อ๋อ คุณต้อล มีปัญหาอะไรหรอคะ”
“คือว่าเย็นนี้คุณปุยฝ้ายว่างหรือเปล่าครับ”
“ว่างค่ะ”
“ผมอยากชวนคุณปุยฝ้ายไปทานอาหารกันซักมื้อน่ะครับ”
“มันจะดีหรอคะ”
“อย่าคิดมากสิครับ เราจะได้คุยงานกันด้วยไง”
“แล้วที่ไหนล่ะคะ”
“ร้านใกล้ๆกับบ้านของนักธุรกิจที่เราไปดูกันวันนี้ครับ 1 ทุ่มเจอกันนะครับ”
“ค่ะ”
ฝ้ายวางโทรศัพท์
“มีหนุ่มโทรมาด้วย”
“เค้าเป็นผู้รับเหมา นัดพี่ไปทานข้าวตอน 1 ทุ่ม”
“ชอบเค้าป่าวเนี้ย”
“ชอบอะไรเล่า จะปรึกษางานกัน เป็นเด็กเป็นเล็กอย่ายุ่งเรื่องผู้ใหญ่”
ฝ้ายเดินขึ้นห้องนอน
“รถใครเนี้ย”ลูกโป่งเดินออกไปเปิดประตูบ้าน
“ขอบคุณนะที่มาส่งครู”อิ๋งๆพูด
“ไม่เป็นไรครับ”
“งั้นครูไปนะ”อิ่งๆกำลังจะเดินออกจากรถ
“เดี๋ยวก่อนครับครู”
“มีอะไรหรอ”
“ผมขอเบอร์ของครูไว้ได้ไหม เผื่อจะได้นัดเรียนกันอ่ะครับ”
มิวสิคยื่นโทรศัพท์ให้อิ๋งๆ
เธอกดเบอร์แล้วยื่นโทรศัพท์คืนให้เค้า
“ขอบคุณนะครับ”
เธอยิ้มหวานให้เค้าแล้วเดินลงจากรถ
“พี่อิ๋งๆลูกโป่งได้เป็นผู้ช่วยหมอนัทแล้วนะ”ลูกโป่งกอดอิ๋งๆ
“ดีใจด้วยนะ น้องรัก”อิ๋งๆพูด
แล้วเดินเข้าบ้าน
“เออ เมื่อกี้ใครมาส่งพี่อะ”
“นักเรียนน่ะ เค้าอาสามาส่ง”
ปุยฝ้ายเดินลงมา
“พี่อิ๋งหวัดดีค่ะ มาตั้งแต่เมื่อไรคะ”
“เพิ่งมาเมื่อกี้เอง แล้วนี่จะแต่งตัวไปไหนเนี้ย”
ลูกโป่งชิงพูดขึ้น
“มีหนุ่มมานัดพี่ฝ้ายไปทานข้าวค่ะ”
“พี่บอกแล้วไงว่าต้อล เค้าเป็นผู้รับเหมานัดคุยงานกันไม่ได้มีอะไรซักหน่อย”ปุยฝ้ายพูด
“ไว้พามาที่บ้านบ้างก็ได้นะพี่ไม่ว่า”
“พี่อิ๋ง ฝ้ายบอกว่าแค่ทำงานด้วยกันไม่ได้มีอะไรซะน่อย”ฝ้ายเริ่มวีน
“ก็ตั้งแต่เกิดมานี่เป็นครั้งแรกนะที่ฝ้ายไปทานข้าวกับผู้ชาย ถึงจะพูดว่าไปทำงานแต่พี่ก็คิดว่า ฝ้ายก็น่าจะชอบเค้าบ้าง”
ปุยฝ้ายนิ่งเงียบไป
“ฝ้ายจะรีบกลับนะคะพี่”ปุยฝ้ายเดินออกไปอย่างเขินๆ
“พี่อิ๋งโป่งว่าพี่ฝ้ายเนี่ยต้องชอบนายต้อลนี่แน่ๆ”
“ชื่อต้อลหรอ แล้วไปรู้มาได้ไงเนี้ย”อิ๋งๆถาม
“ก็ได้ยินเข้าคุยโทรศัพท์กัน”
“เป็นเด็กอย่ายุ่งเรื่องของผู้ใหญ่มากเข้าใจไหม”อิ๋งๆเดินขึ้นห้องนอน
“โดนอีกแล้วทั้งพี่ฝ้าย พี่อิ๋งเลย ลูกโป่งทำงานแล้วนะ”ลูกโป่งเดินตามอิ๋งๆไป
บ้านหลังใหญ่ใจกลางกรุงเทพ
“พ่อครับแม่ครับผมไปก่อนนะครับ”ต้อลพูด
“จะไปไหนต้อล”แม่ถาม
“ผมนัดทานข้าวกับอินทีเรียครับจะปรึกษางานกันหน่อย”
“อินทีเรียที่ชื่อปุยฝ้ายใช่ไหม”
“แม่รู้ได้ยังไงครับ”
“อย่าคิดว่าตัวเองไปไหนกับใครได้ตามใจชอบนะ ลูกอย่าลืมสิว่าลูกมีคู่หมั้นของลูกอยู่แล้ว”
“ครับแม่”
ต้อลขับรถออกไปด้วยความเศร้าสร้อย
ห้องนั่งเล่น
“ไม่ทราบว่าวันนี้พี่นัทไปตรวจภายในผู้หญิงมาหรือไงครับ ยิ้มหน้าบาน
เป็นจานกาไก่อยู่ได้”มิวสิคแซวนัทที่นั่งยิ้มอยู่คนเดียว
“ทะลึ่งแล้ว ไอมิว ฉันเป็นหมอผ่าตัดไม่ใช่หมอตรวจภายใน”
“แล้วยิ้มอะไรอ่ะ”
“ผู้ช่วยคนใหม่น่ะสิ สวยน่าจีบชะมัด แกช่วยสอนฉันจีบผู้หญิงหน่อยสิ”
“หน้าตายอย่างพี่นัทจะจีบติดหรอ ผมว่าพี่นัทหัดยิ้มบ้างดีกว่า”
“เมื่อกี้แกยังพูดว่าฉันยิ้มหน้าบานเป็นจานกาไก่อยู่เลย”
“ก็ยิ้มคนเดียวอะทำได้ แต่ยิ้มให้คนอื่นพี่นัทยังไม่เคยทำเลย วันๆมีแต่หน้าเครียด”
“ฉันเป็นหมอนะ ไม่ได้เรียนดนตรีอย่างแก จะได้ยิ้มทั้งวัน แล้วไงต่ออะ”
“พี่นัทต้องขอเบอร์ก่อน”
“ขอเบอร์หรอ แล้วต้องพูดว่าไงอ่ะ”
“ก็หาเหตุผลมาอ้างดิอะไรก็ได้ พอได้เบอร์มาก็คุยกันบ่อยๆ”
“แล้วไงต่อ”
“ไปขอเบอร์มาให้ได้ก่อนเหอะ”
“เออ พี่ถามอะไรแกอย่างสิ”
“อะไรอะ”
“มาสอนพี่จีบผู้หญิงเนี้ย แกจีบติดซักคนหรือยัง”
“ผมก็ได้เบอร์มาคนนึงแหล่ะ”
“ใครล่ะ”
“เรื่องส่วนตัวสิพี่ รู้อย่างเดียวน่ารักอย่าบอกใครเลย”
“เออ เรื่องส่วนตัว แล้วไอต้อลมันอยู่ไหนเนี้ยตั้งแต่กลับมายังไม่เห็นเลย”
“พี่ต้อลเค้านัดสาวไว้”
“นายรู้ไหมว่าใคร”
“อินทีเรียมือหนึ่ง ปุยฝ้าย”
“ข่าวแน่นตลอดนะ”
ร้านอาหาร
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับคุณปุยฝ้าย ทำไมไม่ทานล่ะครับ”
“ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่เครียดนิดหน่อย”
“มีอะไรบอกผมได้นะครับ เก็บไว้คนเดียวอึดอัดแย่เลย”
“ขอบคุณค่ะคุณต้อล”
“คุณอยู่บ้านกับใครครับ”
“กับพี่สาวแล้วก็น้องสาวค่ะ”
“แล้วพ่อแม่ของคุณล่ะครับ”
“พ่อแม่ของฉันเสียตั้งแต่เด็ก ฉันอยู่กับคุณย่ามาตลอดตอนนี้ท่านก็กำลังป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล”
“ให้ผมไปเยี่ยมบ้างได้ไหมครับ”
“ได้สิคะ แล้วที่บ้านคุณเป็นยังไงบ้าง”
“พี่ชายผมเป็นหมอครับ น้องชายผมกำลังเรียนสาขาดนตรีอยู่ แล้วคุณพ่อกับคุณแม่เป็นนักธุรกิจ”
“บ้านของคุณท่าทางร่ำรวยนะคะ ไม่เหมาะกับบ้านฉันหรอก”
“อย่าคิดอย่างนั้นสิครับ”
“ก็ได้ค่ะ”
“คุณปุยฝ้ายครับ ผมคิดว่าคุณรู้ที่ผมชวนคุณมากินข้าวไม่ใช่เพราะเรื่องงาน”
“ค่ะ ฉันรู้”
“แล้วคุณก็เต็มใจใช่ไหมครับ”
“ดึกแล้ว กลับกันเถอะค่ะ”ปุยฝ้ายเปลี่ยนเรื่อง
ต้อลขับรถมาส่งปุยฝ้ายที่บ้าน
“ขอบคุณนะคะที่มาส่งแล้วก็สำหรับอาหารมื้อนี้ด้วย”
“ผมเต็มใจครับ หวังว่าเราจะได้เจอกันอีก สัญญานะครับ”
“ค่ะฉันสัญญา”ปุยฝ้ายเดินเข้าบ้าน
เช้าวันรุ่งขึ้น
ห้องทำงานหมอนัท
“หมอนัทสวัสดีค่ะ”ลูกโป่งใส่ชุดพยาบาลเดินเข้ามาในห้อง
“คุณมาสายไป15นาที”
“ขอโทษค่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอกแต่คราวหลังอย่ามาสายอีกล่ะ”หมอนัทยิ้มอย่างเป็นมิตร
“อย่างแรกเราจะไปตรวจดูอาการของคนไข้ตามชั้นต่างๆเช้ากับตอนค่ำ หยิบสมุดบันทึกไปด้วยนะ เวลาผมไม่อยู่คุณจะได้ดูอาการคนไข้แทนผมได้”
“ค่ะ หมอนัท”
นัทจ้องตาลูกโป่งแล้วเดินเข้าไปใกล้ๆ
“มาขัดจังหวะอะไรหรือเปล่าคะ”พยาบาลเปิดประตูเข้ามา
“มีอะไรหรอครับ”นัทละสายตาจากลูกโป่ง
“เอกสารที่คุณหมอให้ดิฉันไปอ่านมาคืนค่ะ”
“วางไว้เลย”พยาบาลเดินออกจากห้อง
“ไปกันเถอะ สายมากแล้ว เดี๋ยวจะดูคนไข้ไม่ครบ”
“นี่เธอรู้ไหมฉันไปเจออะไรมา”พยาบาลพูดกับคนอื่น
“อะไรล่ะยัยน้ำฝน”แอ้พูด
“กลางวันนี้เลี้ยงข้าวได้ไหมล่ะ”
“เรื่องมากจริงๆเลยจะเล่าไม่เล่า”แคทพูด
“ก็หมอนัทกับผู้ช่วยคนใหม่น่ะสิ จ้องตากันซะหวานแหววเลย”
“จริงอะ”แอ้พูด
“จริงสิ แต่ฉันว่า 2 คนนั้นเค้าก็สมกันดีนะ ว่าไหมแคท”
แคทนิ่งไป
“ขอตัวก่อนนะ”
แคทเดินออกจากห้อง
“น้ำฝน เรื่องที่ยัยแคทชอบหมอนัทมันเป็นเรื่องจริงหรอ”
“แต่ก่อนฉันไม่เชื่อ แต่ตอนนี้เชื่อแล้ว”
เธอหลบไปร้องไห้ในห้องน้ำ
“ทำไม ทำไมหมอไม่เห็นความดีของแคทเลย ทำไมหมอไม่รักแคทบ้าง”
1ชั่วโมงผ่านไป
ลูกโป่งทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ในห้องของนัท
“เหนื่อยล่ะสิ”
“ค่ะ หมอไม่เหนื่อยหรอ”
“ผมชินแล้วล่ะ ไปทานข้าวกันไหม ผมได้ยินเสียงท้องคุณร้องตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันขอไปเยี่ยมคุณย่าก่อนดีกว่า”
“คุณย่าหรอ ผมไปด้วยสิ”
“อย่าดีกว่าค่ะหมอไปทานข้าวเถอะ ฉันดูตารางงานของหมอ
บ่ายนี้มีผ่าตัดไส้ติ่ง ไปพักผ่อนดีกว่านะคะ”
“แค่ผ่าตัดไส้ติ่ง ไม่มีปัญหาหรอก ไปเยี่ยมคุณย่าของคุณกัน”
ลูกโป่งเดินนำหน้านัทไปหาย่า
“คุณย่า สวัสดีค่ะ เป็นไงบ้างคะ”
“สบายดีๆ ที่จริงย่ากลับบ้านได้แล้วนะ อยู่ที่นี้น่าเบื่อจะตายไป”
“อีกไม่นานคุณย่าก็จะได้กลับค่ะ นี่หมอนัทค่ะ”
“สวัสดีครับคุณย่า”
“เออๆ สวัสดีๆ ฝากลูกโป่งด้วยนะ มันติดตามผลงานของคุณตั้งแต่ยังเป็น
นักศึกษา”
“ครับ ผมดูแลอย่างดีครับ คนเก่งๆอย่างนี้ไปได้ไกลอยู่แล้ว”
“ย่าขอคุยกับลูกโป่งเป็นการส่วนตัวซักแปปนึงได้ไหม”
“ฉันไปรอข้างนอกนะ”นัทเดินออกไปนอกห้อง
“มีอะไรหรอคะคุณย่าทำไมต้องคุยเป็นการส่วนต้วด้วย”
“ย่าน่ะแก่แล้วก็อยากเห็นหลานๆเป็นฝั่งเป็นฝา”
“นี่คุณย่าหมายความว่า”
“หมอนัทเค้าก็ดูเป็นคนดี ฐานะก็ดี มีอาชีพมั่นคง ถ้าหลานรักชอบเค้าย่าก็สนับสนุนนะ”
“คุณย่าคะหมอนัทเค้าเป็นเจ้านายหนูนะคะ แล้วคนก็ชอบเค้าเยอะด้วย หมอนัทเค้าไม่มาสนใจคนอย่างลูกโป่งหรอก”
“ก็คอยดูต่อไปแล้วกันย่าว่าครอบครัวเราคงได้ยินข่าวดีเร็วๆนี้ ไปเถอะเดี๋ยวหมอนัทเค้ารอ”
ลูกโป่งเดินออกจากห้อง
“ไปทานข้าวกันเถอะฉันหิวแล้ว”นัทพูด
มหาลัย
-------088 8888888 calling---------
“ฮัลโล อิ๋งๆพูดค่ะ”
“ครูอิ๋งๆครับ ผมมิวสิคเองครับ”
“อ๋อ มิวสิค มีอะไรหรอ”
“ผมกับเพื่อนแต่งเพลงไว้อยากให้ครูมาลองฟังหน่อย ว่าต้องแก้อะไรบ้าง”
“ครูติดสอนถึงเย็นเลย เอาไว้ตอนค่ำๆไปรอที่ห้องวอยซ์นะ”
ตอนเย็น
“นี่ฉันรอมาตั้งนานแล้วนะ ครูของแกยังไม่มาซะที”ตี๋บ่น
“ใจเย็นสิก็ฉันบอกแล้วไงว่าครูเค้าสอนถึงเย็นเลย”
“ถ้าให้ฉันรอเนี้ยฉันรอได้ทั้งคืนนะเว้ย แต่ว่าวันนี้ฉันนัดพะแพงไปดูหนัง เห็นใจกันบ้างสิ พะแพงอะมีคนอื่นมาชอบเยอะจะตาย ถ้าเค้าเห็นคนอื่นดีกว่าฉันจะทำไง”
“งั้นนายก็ไปเถอะ ฉันเล่นให้ครูเค้าฟังคนเดียวก็ได้”
“ฉันไม่เข้าใจแกจริงๆ ว่ะมิว ครูคนอื่นที่เราสนิทด้วยมีเยอะแยะทำไมต้องเป็นคนนี้ด้วยวะ”
“เหตุผลส่วนตัวแกอย่ายุ่งเลย จะรีบไปดูหนังไม่ใช่หรอ”
“เออๆฉันไปก่อนนะ ฝากกีต้าร์ด้วย”ตี๋วิ่งออกไปอย่างลุกลี้ลน
ฝนตกลงมาอย่างหนักนักศึกษาส่วนใหญ่กลับกันหมดแล้ว
“รอครูนานไหม”อิ๋งๆเดินเข้ามาตัวเปียกโชก
“เอาเสื้อผมไปใส่ก่อนครับ เดี๋ยวเป็นหวัด”มิวสิคหยิบเสื้อคลุมของเขาสวมให้อิ๋งๆ
“ขอบใจจ่ะ แล้วเพื่อนเธอไปไหนล่ะ”
“เค้านัดสาวไว้น่ะครับก็เลยขอกับไปก่อน”
“ถ้าให้ครูเดา ครูว่าคงเป็นพะแพงสินะ”
“ใช่ครับ ตอนนี้ทั้งมหาลัยเค้ามารุมจีบพะแพงอยู่ ไม่รู้คิดยังไงมีแฟนเป็นคนไม่ชอบ ชอบมีแฟนเป็นลิง”
“ว่าเพื่อนตัวเองนะ แล้วตัวเธอจีบพะแพงติดไหม”
“ผมไม่จีบพะแพงหรอก เราเป็นแค่เพื่อนกัน แล้วที่สำคัญผมมีคนที่ผมชอบอยู่แล้ว”
“หรอ ครูก็ขอให้สมหวังนะ ร้องเพลงให้ครูฟังดีกว่า”
“ได้ครับ”
มิวสิคหยิบกีต้าร์ขึ้นมา
-----จากวันนั้นที่สองเรามาพบกัน
ช่วยแต่งเติมฝันกันสองคน
เติมความรัก เติมแรงใจกันเรื่อยมา
ศรัทธาในรัก เต็มเปี่ยม หัวใจ
อยากให้รู้ว่าฉันรักเธอมากมาย
แค่หมดดวงใจที่ฉันมี
อยากให้ฟ้าให้เดือนดาวช่วยฉันที
ให้รักสองเราล่องลอยไป
ขอบฟ้าที่ดูแสนไกลมีใจเราอยู่ใกล้กัน
ให้ทุกคืนทุกวัน
จงเป็นอย่างนี้เรื่อยไป
รักจึงมีพลังนำทางให้สองใจ
จะไม่ห่างกันไกล
และแทบทุกลมหายใจส่งถึงกัน
Love will keep us together
Love will stay around
แค่วันนี้ได้มีเธออยู่ค้างกาย อบอุ่นในใจอยู่ทุกครา
อุ่นด้วยรักด้วยหัวใจเธอให้มา จะขอสัญญาจะเก็บไว้
ขอบฟ้าที่ดูแสนไกลมีใจเราอยู่ใกล้กัน
ให้ทุกคืนทุกวัน
จงเป็นอย่างนี้เรื่อยไป
รักจึงมีพลังนำทางให้สองใจ
จะไม่ห่างกันไกล
และแทบทุกลมหายใจส่งถึงกัน
แม้วันที่มืดมน
ประกายแห่งรักจะทอแสงสว่าง
รักเรายังมั่นคงไม่เคยจาง
ตราบวันสุดท้ายก็ยังจะหายใจเป็นเธอ
ขอบฟ้าที่ดูแสนไกลมีใจเราอยู่ใกล้กัน
ให้ทุกคืนทุกวัน
จงเป็นอย่างนี้เรื่อยไป
รักจึงมีพลังนำทางให้สองใจ
จะไม่ห่างกันไกล
และแทบทุกลมหายใจส่งถึงกัน
ขอบฟ้าที่ดูแสนไกลมีใจเราอยู่ใกล้กัน
ให้ทุกคืนทุกวัน
จงเป็นอย่างนี้เรื่อยไป
รักจึงมีพลังนำทางให้สองใจ
จะไม่ห่างกันไกล
และแทบทุกลมหายใจจะรักเธอ-----
“เป็นไงบ้างครับครู”
“ครูชอบนะ เนื้อดี ทำนองเพราะ ไม่ต้องแก้แล้วล่ะ เอาไปส่งค่ายเพลงได้เลย”
“ผมไม่ได้แต่งเพลงนี้เพื่อเอาไปขาย”
“อ้าว”
“ผมแต่งให้กับคนที่ผมรัก”
“ครูว่าถ้าเธอไปเล่นให้คนๆนั้นฟังเค้าต้องรู้สึกดีแน่ๆ เธอบอกครูได้ไหมว่าใครที่เธอปิ๊งอยู่”
“ก็คนที่นั่งอยู่ตรงหน้าผมนี่ไง”
“อย่าล้อเล่นสิ”อิ๋งๆหัวเราะเบาๆ
“ผมไม่ได้ล้อเล่นครับ ผมแต่งเพลงนี้ให้ครูจริงๆ”
“เธอจะแต่งให้ครูทำไม”
“ก็อย่างที่ครูเข้าใจนั้นแหล่ะครับ ผมไปส่งครูเอง กลับกันเถอะครับ”
“ไม่ต้อง เธอกลับไปเถอะ ครูกลับเองได้”น้ำเสียงของเธอเปลี่ยนไป
อิ๋งๆลุกขึ้นจะเดินออกจากห้อง
มิวสิคเดินมาขวางไว้
“อย่าปฏิเสธเลยครับ ฝนก็ตกหนักให้ผมไปส่งเถอะนะครับ”
“บอกว่าไม่ต้อง ก็ไม่ต้องสิ”
“ผมอยากดูแลครูจริงๆนะ”มิวสิคดึงตัวอิ๋งๆเข้ามากอด
แล้วจูบเรือนผมของเธอเบาๆ เวลาผ่านไปยาวนานที่ทั้งสองคนกอดกันอยู่
“ปล่อยครูนะ”อิ๋งๆตื่นจากภวังค์ เธอพยายามจะผละตัวออก
จากอ้อมกอดของเค้า
“ผม ผมขอโทษ”เค้าคลายอ้อมกอดลง
อิ๋งๆถอดเสื้อคลุมแล้วปาใส่ตัวเค้า เธอวิ่งฝ่าสายฝนไปนั่งรถtaxi
“ครูครับ ผมขอโทษ”มิวสิคนั่งร้องไห้อยู่ในรถ
ตอนที่ 3 คิดมากไป(ใช่ไหม)
โรงพยาบาล
“ลูกโป่ง มีคนมาหา”น้ำฝนเรียกลูกโป่ง
“ใครหรอพี่”ลูกโป่งเดินตามน้ำฝนไป
ชายร่างสูงโย่งหันหน้ามา
“หวัดดี ยัยโป่ง”
“อ้าวแจ็คหวัดดี นายมาทำอะไรที่นี้เนี้ย”
“ฉันก็จบหมอมาเหมือนกันนะ ฉันมาสมัครเป็นหมอผ่าตัดที่นี้แหล่ะ แล้วเค้าก็รับฉันแล้วด้วย”
“ดีๆเราจะได้ทำงานด้วยกันไง”
“แล้วทำไมเธอมาเป็นผู้ช่วยล่ะ จบหมอมาก็เป็นหมอสิ”
“ฉันยังไม่ค่อยมั่นใจอะ เลยขอเป็นผู้ช่วยก่อน”
หมอนัทเดินเข้ามาหา
“นี่ใครหรอลูกโป่ง”นัทถาม
“เพื่อนที่เรียนหมอมาด้วยกันค่ะ ชื่อแจ็ค”
“ยินดีที่ได้รู้จัก ผมหมอนัท”
“ยินดีเช่นกันครับ”
ทั้ง2คนบีบมือกันแน่นมาก
“ยัยแอ้ ฉันว่าเกิดศึกชิงนางแน่ๆเลย”
“ฉันก็ว่างั้นแหล่ะ”น้ำฝนกับแอ้ที่แอบดูอยู่พูดขึ้น
ห้องทำงานของหมอแจ็ค
“ฉันชื่อแคท จะมาเป็นผู้ช่วยนาย”แคทพูด
“ผมขอถามอะไรนอกเรื่องหน่อยได้ไหม”
“อะไรล่ะ”
“หมอนัทกับลูกโป่งเค้าเป็นแค่เพื่อนร่วมงานกันใช่ไหม”
“แล้วนายคิดว่าไงล่ะ”
“ฉันถามเธอนะตอบให้มันดีๆหน่อย ยัยถั่วงอก”
“ถั่วงอกหรอ”
“ก็คนหัวโตแต่ตัวเล็กไง”
“อีตาบ้า”แคทไล่ตีแจ็คทั่วห้อง
“ฉันเจ็บนะ เลิกเล่นได้แล้ว”แคทหยุดตีแจ็ค
“ฉันชอบลูกโป่ง เธอต้องช่วยฉันแยกเขาสองคนออกจากกัน เข้าใจไหม”
“นายก็ต้องช่วยแยกลูกโป่งออกจากหมอนัทด้วย”
ตอนกลางวัน
แจ็คเดินไปหาลูกโป่งที่ห้องทำงาน เป็นโชคดีของเค้าที่นัทไม่อยู่
“ลูกโป่งกลางวันนี้ไปกินข้าวกับฉันไหม”
“คือว่า แจ็ค คือ”
นัทเปิดประตูเข้ามา
“มีอะไรกันหรอครับ”
“ผมแค่จะชวนลูกโป่งไปทานข้าว หวังว่าหมอนัทคงไม่ว่าอะไรนะครับ”
“แต่บังเอิญว่าผมชวนลูกโป่งก่อนแล้ว เสียใจด้วยนะ”นัทยิ้ม
“จริงหรอลูกโป่ง”แจ็คหันไปถาม
ลูกโป่งพยักหน้าช้าๆ
แจ็คเดินออกไปอย่างอารมณ์เสีย
แคทยืนรออยู่หน้าห้อง
“ลักษณะเนี้ยคงแพ้ไม่เป็นท่าล่ะสิ”
“อย่าพูดมากเลย ไปกินข้าวแก้เซ็งก่อนดีกว่า”
แจ็คจูงมือแคทไปที่โรงอาหาร
“นายปล่อยมือฉันได้ไหม”แคทพูดเสียงเบา
“ทำไมกลัวหมอนัทมาเห็นหรอ”
“เปล่า ฉันไม่ชอบให้นายมาถูกเนื้อต้องตัวฉัน”
“จะว่าไปแล้วตอนนี้ ที่นี่ก็เปลี่ยวนะ คนอื่นเค้าลงไปทานข้าวกันหมดแล้ว”
แจ็คยิ้มอย่างมีเลศนัย
“นายจะทำอะไรฉันอะ”แคทเริ่มกลัวในท่าทางของเขา
“ก็ทำอย่างงี้ไง”แจ็คดึงตัวแคทเข้าไปในซอกตึกแล้วดึงเธอเข้ามาจูบ
หัวใจของแคทเต้นไม่เป็นจังหวะ
“ฉันโดนนายนี้จูบหรอเนี้ย”
เธอพยายามผลักเค้าออกสุดแรง แคทเหยียบเท้าของแจ็คเต็มแรงเพื่อให้เค้าปล่อย
แคทวิ่งหนีแจ็คไป
“เดี๋ยวก่อนแคท ฉันขอโทษแคท แคทรอฉันด้วย”
เค้าคว้ามือของเธอไว้
“ปล่อยฉันนะ ไอบ้า”แคทสะบัดมือเต็มที่
“ฟังฉันพูดก่อนได้ไหมยัยถั่วงอก”
“เวลาอย่างนี้นายยังมาพูดเล่นอีกหรอ”เธอหยุดขัดขืน
“เมื่อกี้ ฉันแค่แกล้งเธอเล่นเฉยๆ อย่าคิดมาก เข้าใจไหม”
“เนี้ยนะวิธีแกล้งของนาย นี่แค่วันแรกนายยังทำกับฉันแบบนี้เลย แล้ววันต่อไป”
“ฉันสัญญาก็ได้ว่าจะไม่ถูกเนื้อต้องตัวเธออีก”
“นายห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกหมอนัทนะ”
“ฉันรู้หน่า ไม่ต้องบอกหรอก เราจะไปทานข้าวกันได้หรือยัง”
“ไปสิ”แคทเดินตามแจ็คออกไปอย่างเขินๆ
“ลูกโป่ง ผมไม่ชอบให้แจ็คเข้ามาในห้องของผม แล้วก็มาคุยกับคุณในเวลาทำงาน อย่าทำอีกล่ะ”นัทพูดเสียงเครียด
“ฉันไม่ได้อยากคุยกับเค้าหรอกเค้าเข้ามาทักก่อนมากกว่า”ลูกโป่งแก้ตัว
“นั้นแหล่ะ ไม่ต้องไปยุ่งกับเค้ามาก เอ่อ ผมขอเบอร์โทรศัพท์คุณได้ไหม เผื่อมีงานอะไรจะได้ติดต่อกันได้”ลูกโป่งสังเกตเห็นว่านัทดูเขิน เธอหยิบกระดาษและปากกาบนโต๊ะแล้วจดเบอร์ให้นัท
“นี่ค่ะหมอนัท”
ร้านอาหารในมหาลัย
“ขอบคุณนะเอี่ยวที่มาช่วยฉันสอน”อิ๋งๆพูดกับเอี่ยว เพื่อนสมัยเรียนของเธอ
“ไม่เป็นไรหรอก ถ้ามีอะไรที่ฉันช่วยเธอได้ ฉันก็จะทำ”
“แหวะ พูดซะหวานเลยนะ ถ้าฉันเอาไปฟ้องแฟนนาย อยากรู้จริงๆว่านายจะทำหน้ายังไง”
“อย่าเลยนะ เธอก็รู้ดีนิว่าเวลาแอนตี้โมโหเป็นยังไง”
“จ้าๆ”
----------088 8888888calling--------
“ใครโทรมาอ่ะอิ๋งๆ”
“ยุ่งหน่า เดี๋ยวไปคุยโทรศัพท์ก่อนนะ”อิ๋งๆลุกไปข้างนอก
“ฮัลโล มิวสิค”
“ครูครับ ทำไมเมื่อคืนผมโทรไปทำไมไม่รับ”
“เธอจะโทรมาหาครูทำไมอีก”
“ผมแค่จะโทรมาขอโทษเรื่องเมื่อวาน”
“แล้วไง”
“ผมอยากเจอครูอีก อย่าหายไปแบบนี้ได้ไหมครับ”
“เลิกยุ่งกับครูเถอะ ครูมีแฟนแล้ว”
“ผมไม่เชื่อครูหรอก ครูแค่ต้องการหลบหน้าผม แค่นั้นใช่ไหมครับ”
“ไม่ใช่ครูมีแฟนแล้วจริงๆแค่นี้นะ”อิ๋งๆพูดขณะน้ำตาปริ่ม เธอกดวางสาย
“มิวสิค เรารักกันไม่ได้ ครูขอโทษ”อิ๋งๆนั่งร้องไห้ที่บันได
“ทำไมคุยนานจัง”เอี่ยวสงสัยว่าอิ๋งๆหายไปนาน เค้าลุกขึ้นแล้วเดินหา
“อิ๋งๆ เธอเป็นอะไร มานั่งทำอะไรตรงนี้”เอี่ยวนั่งลงข้างอิ๋งๆ
“เธอร้องไห้ทำไม”เอี่ยวถาม
“เอี่ยว นายช่วยอะไรฉันอย่างนึงได้ไหม”
“อะไรล่ะ ฉันช่วยเธอได้ทุกอย่าง”
“แกล้งเป็นแฟนฉันที ฉันอยากให้เค้า เข้าใจว่าฉันมีแฟนแล้ว เค้าจะได้ไม่ต้องมายุ่งกับฉันอีก”
“ได้ๆ แต่เธอเช็ดน้ำตาก่อนนะ ไหลเประแก้มหมดแล้ว”เอี่ยวหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้เธอเบาๆ
มิวสิคเดินมาที่ร้านกับตี๋
“มิวสิคนั้นครูอิ๋งๆนิ”ตี๋พูด
“ฉันไม่อยากยุ่งกับครูเขาแล้ว”
“อยู่กับใครก็ไม่รู้นะหน้าตาดีซะด้วย”
มิวสิคหันไปมอง
“คนๆนั้นเองหรอ”มิวสิคเดินเข้าไปหา
“คนนี้เองหรอครับ แฟนของครู”มิวสิคถาม
อิ๋งๆเงยหน้าขึ้นมองมิวสิค
“ใช่ ผมเป็นแฟนของอิ๋งๆ”เอี่ยวพูด
“ผมไม่กวนคุณสองคนแล้วเชิญใกล้ชิดกันตามสบายเถอะ”มิวสิคเดินออกไป
อิ๋งๆมองตามมิวสิคไปอย่างเศร้าสร้อย
บ้านนักธุรกิจ ตอนค่ำ
“คุณต้อล คุณปุยฝ้าย นี่เดียร์ นี่บอมบ์ ลูกของผม ช่วยดูห้องของเค้าสองคนด้วยนะ ผมมีธุระ ฝากด้วย”
“คุณปุยฝ้าย เราไปดูพร้อมกันนะครับ จะได้อธิบายให้ผมฟังด้วย”ต้อลพูด
“อย่าดีกว่าค่ะ ฉันไปดูกับคุณเดียร์ คุณก็ไปดูกับคุณบอมบ์”ปุยฝ้ายเดินหนี
เธอเดินไปดูห้องกับเดียร์
ต้อลมองตามปุยฝ้ายไปอย่างเศร้าๆ
“อย่าแม้แต่จะคิด น้องสาวฉันไม่ตาต่ำมาชอบแกหรอกไอต้อล”บอมบ์พูด
“ผมไม่ได้มองน้องสาวคุณ ผมมองปุยฝ้าย”
“แกจะมองปุยฝ้ายทำไม”
“ผม คือว่าผม ผม”
“เฮ้ย เรื่องอย่างนี้ฉันรู้ดีน่า อยากสมหวังไหมล่ะ เดี๋ยวฉันจัดการให้”
“จริงหรอครับ คุณบอมบ์จะทำยังไงล่ะ”
“ถ้าพูดตามตรง ที่เนี้ยก็เปลี่ยวแล้วก็เงียบนะ เหมาะกับการที่จะทำอะไรอย่างนั้น นายเข้าใจใช่ไหม”
“ผมไม่ทำอะไรชั่วๆอย่างนั้นหรอก”
“ถ้าแกไม่ทำฉันทำเองก็ได้”บอมบ์เดินหนี
ต้อลดึงคอเสื้อของบอมบ์
“คุณห้ามทำอะไรปุยฝ้ายนะ ไม่งั้นผมไม่เอาคุณไว้แน่”
“แล้วแกทำอะไรฉันได้ล่ะ”
“ก็จับคุณเข้าตารางไง”
“ถ้าแกทำได้ก็ทำไปเหอะ”
ต้อลปล่อยคอเสื้อ
“อ้าว ทั้งสองคนยังไม่ไปดูห้องกันอีกหรอคะ เดียร์เสร็จแล้วนะพี่บอมบ์”เดียร์เดินลงบันไดมากับปุยฝ้าย
“ก็คุณต้อลน่ะสิครับ บอกว่าอยากให้ผมไปดูห้องกับคุณปุยฝ้ายมากกว่าเพราะเค้าไม่ค่อยเก่ง”บอมบ์พูด
“ก็ได้ค่ะ คุณบอมบ์เชิญค่ะ”ปุยฝ้ายเดินขึ้นบันไดไปกับบอมบ์
“คุณต้อลเป็นอะไรหรือเปล่าคะ เดียร์เห็นคุณหน้าเครียดมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ”เดียร์ถาม
“ผมขอถามเรื่องส่วนตัวของคุณหน่อยได้ไหม”
“เรื่องอะไรคะ”
“พี่ชายคุณเค้า..”ต้อลอ้ำอึ้ง
“คุณกำลังเป็นห่วงคุณปุยฝ้ายใช่ไหมคะ”
“คุณรู้ได้ไง”
“ถ้าคุณเป็นห่วงเธอรีบตามขึ้นไปดีกว่าก่อนมันจะสายเกินแก้”
“ครับ”ต้อลรับวิ่งตามปุยฝ้ายไปข้างบน
“คุณบอมบ์นี้ มีสไตล์ดีนะคะเลือกห้องซะสวยเลย”
“ห้องผมไม่ได้สวยมากมายอะไรหรอกครับ คุณทำให้ห้องผมสวยขึ้นมากกว่า”
“ขอบคุณค่ะ”
ปุยฝ้ายเดินไปรอบๆห้องแล้วสะดุดกับถังสีที่ตั้งไว้ บอมบ์รีบช้อนร่างของเธอไว้ไม่ให้ล่ม
ต้อลรีบวิ่งขึ้นมาแล้วก็เห็นภาพบาดตาบาดใจ
“ปล่อยปุยฝ้ายเดี๋ยวนะ”ต้อลพูดแล้วชกหน้าบอมบ์
บอมบ์ลงไปกองกับพื้น
บอมบ์ลุกขึ้นแล้วต่อยต้อลไม่ยั้ง
“ผมไม่อยากมีเรื่องกับลูกค้า”ต้อลเดินลงไปด้วยความโมโห
ปุยฝ้ายเดินตามลงไป
“คุณปุยฝ้ายครับ จะไปไหนครับ”บอมบ์เรียก
“อย่ามาสำออยเลยค่ะ แค่หมัดเดียวมันไม่เจ็บขนาดนั้นหรอก”
บอมบ์เดินลงมาหาเดียร์
“เดียร์กลับบ้าน”
“เมื่อกี้พี่ทำอะไรปุยฝ้ายหรือเปล่า”
“เปล่า ไอต้อลมันยุ่งเรื่องคนอื่นทำไมก็ไม่รู้”
“นี่พี่ดูไม่ออกหรอ ว่าสองคนนั้นเค้าชอบกันอยู่”
“แล้วแกรู้ได้ไง”
“ทำงานร่วมกันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยซะขนาดนั้น”
ต้อลเดินไปที่รถ
“คุณต้อล คุณต้อล รอฉันก่อนสิ”ปุยฝ้ายวิ่งตามมา
“คุณไม่ไปดูนายบอมบ์แล้วหรอ ตามผมมาทำไม”
“ฉันรู้นะว่าคุณ ขึ้นไปข้างบนเพราะอะไร”
ต้อลทำหน้าเขินๆ
“ก็ผมเป็นห่วงคุณ คุณไม่โกรธผมนะ”
“ฉันไม่โกรธคุณหรอก ไปทำแผลที่บ้านฉันก่อนนะ อยู่ใกล้ๆนี่เอง”
ต้อลขับรถไปที่บ้านของปุยฝ้าย
“พี่อิ๋งๆ ลูกโป่ง นี่คุณต้อล”
“หวัดดีครับ”
“แล้วหน้าคุณไปโดนอะไรมา”อิ๋งๆถาม
“มีเรื่องกับลูกค้านิดหน่อยครับ”
“ฝ้ายก็เลยพาคุณต้อลมาทำแผลที่บ้านเรา เห็นว่าอยู่ใกล้ๆ”ฝ้ายพูด
“ลูกโป่ง ไปนอนกันเถอะ พรุ่งนี้ต้องไปทำงานแต่เช้าไม่ใช่หรอ”อิ๋งๆกับลูกโป่งเดินขึ้นบันได
“ลูกโป่งอย่าเพิ่งเข้าห้อง มาแอบฟังเป็นเพื่อนพี่ก่อน”อิ๋งๆกับลูกโป่งแอบฟังอยู่ตรงบันได
“คุณต้อลคะ นั่งรอที่โซฟาก่อนนะคะ”ปุยฝ้ายเดินไปหยิบกล่องยา
“บ้านคุณสวยดีนะ ผมชอบจัง”
“หรอคะ”ปุยฝ้ายนั่งลงข้างๆต้อล
“อยู่นิ่งๆนะคะ”ปุยฝ้ายบรรจงทายาให้ต้อล
“มือคุณเบาๆจังเลยนะ”
“ขอบคุณค่ะ”
“ผมรักคุณครับ ปุยฝ้าย”ปุยฝ้ายเขินอายอย่างเห็นได้ชัด
ต้อลเขยิบตัวเข้ามาใกล้ๆแล้วบรรจงจูบที่ปากบางๆของเธออย่างนุ้มนวลและเนิ่นนาน
ปุยฝ้ายผลักต้อลให้ออกห่างจากเธอ หน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อ
“คุณแน่ใจหรอ”ปุยฝ้ายพูดเสียงเบา
“แน่ใจครับ”ต้อลพูดหนักแน่น
“ถ้าฉันอยากทำความฝันของฉันให้สำเร็จก่อน คุณจะรอได้ไหม”
ต้อลยิ้มบางๆแล้วพูดว่า
“ผม รอได้ตลอดชีวิต”
เค้ากระชับร่างของเธอไว้ในอ้อมกอดอุ่นๆ
“ท่าทางว่าเราคงจะเหลือกันแค่สองคนแล้วนะ ลูกโป่ง”อิ๋งๆพูด
“โป่งก็ว่างั้นแหล่ะพี่”
ตอนที่ 4 อยากบอกเธอเหลือเกิน
โรงพยาบาล
“ลูกโป่ง ผมมีอะไรอยากถามหน่อย”นัทพูด
“อะไรหรอคะหมอนัท”
“โรงพยาบาลเรามีโครงการแพทย์อาสาที่ต่างจังหวัด คุณจะไปกับผมไหม”
“ไปค่ะ จะได้ถือโอกาสไปเที่ยวด้วย”
“งั้นผมจะไปกรอกใบสมัครเผื่อคุณด้วยนะ แล้วอย่าลืมนะคืนนี้คุณต้องอยู่เวรกับผม”นัทเดินออกไปอย่างร่าเริง
“อยู่เวรตอนกลางคืนหรอน่ากลัวชะมัด ทำไมหมอนัททำท่าร่าเริงขนาดนั้นเนี้ย”
“ยัยถั่วงอก ตกลงเธอจะไปไหม ค่ายอาสาเนี้ย”แจ็คถาม
“นายจะไปปะ”
“ก็ฉันรอคำตอบอยู่นี่ไงถ้าเธอไปฉันก็ไปถ้าเธอไม่ไปฉันก็ไม่ไป”
“แล้วนายไม่อยากไปกับลูกโป่งหรอ”
“หมอนัทคงชวนลูกโป่งตัดหน้าฉันอยู่แล้ว ตกลงไปไม่ไป”
“ไปก็ได้”
“งั้นก็เตรียมตัวไว้แล้วกันไปอาทิตย์หน้านะ”
“อืม นายอย่าลืมนะคืนนี้อยู่เวรที่ตึก1 ลูกโป่งกับหมอนัทอยู่ตึก2”
“แล้วมาตอกย้ำทำไมเนี้ย”
--------กบอบน้ำผึ้ง calling-------
“ฮัลโล ฝ้าย”ต้อลพูด
“มีอะไรหรอ”
“อยากชวนไปเที่ยว ไปได้เปล่า ชวนลูกโป่ง กับพี่อิ๋งๆไปด้วยก็ได้”
“อืมๆ แล้วไปวันไหนล่ะ”
“พรุ่งนี้เลยนะ”
“ก็ได้ๆ ต้อลมารับฝ้ายที่บ้านด้วยนะ”
“ครับๆ”
มหาลัย
เอี่ยวกับอิ๋งๆเดินออกมาจากลิฟต์
“เอี่ยว เราลืมของอะรอก่อนนะเดี๋ยวมา”อิ๋งๆเดินกลับเข้าไปในลิฟต์
ชั้น 6 มิวสิคเดินเข้ามาในลิฟต์
“ครู ผมอยากบอกครูนะว่าผมไม่เชื่อ ว่าครูเป็นแฟนกับเอี่ยวหรอก”
“เอี่ยวเป็นครูคนนึง ให้เกียรติเค้าด้วย”
“ผมรักครูนะครับ ขอร้องนะครับ อย่าทำแบบนี้เลย อย่าให้ผมต้องทรมานไปมากกว่านี้เลยนะครับ”มิวสิคกอดอิ๋งๆ
เธออยากกอดเค้า แต่ห้ามใจไว้แล้วผลักตัวของเค้าออก
“ยังไงๆมันก็เป็นไปไม่ได้ อย่ายุ่งกับครูอีก”
ชั้น 8 อิ๋งๆเดินออกจากลิฟต์ เธอหยิบของ แล้วลงลิฟต์อีกตัวนึงไปหาเอี่ยว
อิ๋งๆรีบเดินขึ้นรถของเอี่ยว
“เอี่ยวฉันลืมเค้าไม่ได้ ทำไม”เธอร้องไห้ออกมา
“อย่าห้ามหัวใจตัวเองเลยอิ๋ง มันไม่ใช่แค่เธอเจ็บคนเดียว มิวสิคก็เจ็บด้วย ฉันก็เจ็บที่เห็นเธอต้องร้องไห้อย่างนี้”
ตอนกลางคืน
“มาตรงเวลาดีนะลูกโป่ง ไปกันเถอะ ต้องทำงานแล้ว”
“ค่ะหมอนัท”
นัทเดินนำลูกโป่งไปตามชั้นต่างๆที่ต้องตรวจดู
“นายไข่เจียว เร็วๆหน่อยได้ไหม ยังต้องดูอีกตั้งหลายชั้น”
“ก็ฉันเมื่อยนี่น่า เดินมายังไม่ได้พักเลยนะ ยัยถั่วงอก”
“นายเรียกฉันว่าถั่วงอกอีกแล้วนะ”
“ทำไมอ่ะทีเธอยังเรียกฉันว่าไข่เจียวได้เลย”
“เออ ฉันไม่อยากเถียงกับนายแล้ว ไปได้ยัง”
“ขอนั่งพักก่อนได้ไหม”แจ็คนั่งลงกับพื้นแล้วพิงผนังด้วยความอ่อนหล้า
“ฉันก็เมื่อยเหมือนกัน”แคทนั่งลงข้างๆเค้า
“ทำเป็นเก่งเดินอยู่ได้ ตัวเองก็เมื่อยเหมือนกันแหล่ะ”
“ขอพักแปปนึงนะ”
แคทเอียงหัวซบไปที่ไหล่ของแจ็ค เข้าทางนายไข่เจียวแล้ว อิอิ
แจ็คโอบไหล่ของแคทไว้แบบเนียนๆ
“นายลืมลูกโป่งได้หรือยังแจ็ค”
“ลืมไปหมดแล้ว ฉันรู้ว่ายังไงฉันกับลูกโป่งก็คงเป็นได้แค่เพื่อนกัน”
“ฉันดีใจนะที่นายตัดใจจากลูกโป่งได้”
“ทำไมดีใจล่ะ”
“ก็เปล่า ไม่มีอะไรหรอก เพราะลูกโป่งคงชอบหมอนัทมากกว่าไข่เจียวอย่างนาย”
“แล้วเธอลืมหมอนัทได้หรือยัง”
“ก็เหมือนนายนั้นแหล่ะ"
“ดีแล้วล่ะ เพราะยังไงฉันก็ไม่ยอมให้ใครมาซ้ำรอยจูบของฉันหรอก”
แคทผลักแจ็คให้ออกห่าง
“ไอบ้า ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าพูดเรื่องนี้อีก นึกแล้วอยากจะอ๊วก”แคททำท่าขยักแขยง
“อยากลองอีกซักครั้งไหมล่ะ”
“ไม่เอาอะ พักนานแล้วไป ชั้นอื่นกันเถอะ”แคทลุกขึ้น แล้วเดินนำไปอย่างเขินๆ
ในลิฟต์
“ลูกโป่ง เธอชอบแจ็คหรือเปล่า”
“ทำไมหมอนัทถามอย่างนี้ล่ะคะ”
“ถ้ารักกันผมจะได้ไม่เข้าไปยุ่งไง”
“โป่งกับแจ็คเป็นแค่เพื่อนกันค่ะ เราไม่ได้มีอะไรกัน”
“แล้วถ้าผม”
ไฟดับ ความมืดเข้าครอบงำ นัทรวบตัวลูกโป่งไว้ในอ้อมกอดของเค้า
เค้ารับรู้ได้ว่าเธอกลัวมาก
“หมอนัทอย่าทิ้งโป่งไปไหนนะ”เธอพูดเสียงสั่น
หัวใจของนัทเต้นแรงอย่างไม่รู้ตัว เค้าไม่เคยกอดผู้หญิงคนไหนมาก่อน
“ไม่ต้องกลัวนะ หมอไม่ทิ้งโป่งไปไหนหรอก”
“แจ็ค นายอยู่ไหน ออกมาหาฉันหน่อย”แคทเรียกแจ็คที่หลงกันท่ากลางความมืด
“แล้วเธออยู่ไหน ฉันหาเธอไม่เจอ เอางี้นะ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมา ฉันจะได้เห็น”
ไฟของโทรศัพท์ทำให้แจ็คเดินเข้าไปหาแคทได้
แคทเดินเข้าไปกอดแจ็ค
“ฉันกลัว นายอย่าหายไปอีกนะ อยู่เป็นเพื่อนฉัน”
“แคท ฉันไม่ทิ้งเธอหรอก นั่งก่อนนะ อีกไม่นานไฟคงมา”
แจ็คกับแคทนั่งพิงผนังอีกครั้ง
แคทจับมือของแจ็คไว้แน่น
“เธอจะพิงไหล่ฉันก็ได้นะ ไม่ว่าหรอก”
แคทเอนหัวพิงไหล่ของเค้าอีกครั้ง
เธอผล็อยหลับไปอย่างไม่รู้ตัว
เค้าแน่ใจว่าเธอหลับแล้ว
“ยัยถั่วงอก ฉันรักเธอนะ”แจ็คกระซิบเบาๆ
เป็นเวลานานมากที่นัทกอดลูกโป่งไว้
หน้าของเค้าเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
“ลูกโป่ง ไฟติดแล้ว”
ลูกโป่งเงยหน้าออกมาจากอกของนัท
ประตูลิฟต์เปิดออก
นัทจูงมือลูกโป่งออกมาจากลิฟต์
“ให้ผมไปส่งที่บ้านไหม”
“อย่าดีกว่าค่ะ โป่งกลับเองได้”
“อย่าดื้อสิ ไปกับผมเถอะ”
“ยัยถั่วงอกตื่นได้แล้ว ไฟมาแล้วนะ”แจ็คปลุกแคทที่หลับอยู่บนไหล่ของเค้า
“ไปกลับบ้านๆ นอนอยู่ได้ เมื่อยจะตาย”แจ็คบ่น
“เมื่อยมากป่าว ขอโทษนะ”แคทพูดเสียงเครียด
“ไม่มากหรอก”
“ฉันกลับบ้านก่อนนะ”แคทเดินจากไป ใบหน้าของเธอและเค้ามีรอยยิ้มปรากฎอยู่อย่างไม่รู้ตัว
บ้านลูกโป่ง
“ขอบคุณนะคะหมอที่มาส่ง จะเข้าไปดื่มกาแฟซักถ้วยไหมคะ”
“ก็ดีครับ”หมอนัทเดินตามลูกโป่งเข้าบ้าน
ปุยฝ้ายนั่งสัปหงกอยู่ที่โซฟา อิ๋งๆก็เช่นกัน
“ลูกโป่งทำไมกลับมาเกือบเช้าอย่างงี้ล่ะ พี่กับปุยฝ้ายรออยู่ตั้งนาน โทรศัพท์ก็ไม่รับ”อิ๋งๆพูดเสียงงัวเงีย
“คือว่าโป่งต้องเข้าเวรตอนกลางคืนอะ”
“คราวหลังจะเข้าเวรวันไหนก็บอกพี่กับฝ้ายบ้าง เข้าใจไหม”
“ค่ะ พี่อิ๋ง”
“แล้วนั้น”อิ๋งหยีตามองนัท
“หมอนัทค่ะ เค้าขับรถมาส่งลูกโป่ง”
“หวัดดีครับ”นัทยกมือไหว้อย่างสุภาพ
“หวัดดีค่ะ หมอ เดี๋ยวพี่ไปชงกาแฟมาให้นะ”อิ๋งๆพูด
“พี่พาพี่ฝ้ายไปนอนข้างบนเถอะเดี๋ยวลูกโป่งชงกาแฟให้หมอนัทเอง”
“ได้ๆ เอ๊ย ลูกโป่ง แล้วพี่จะแบกฝ้ายไปยังไงไหว”
“เดี๋ยวโป่งไปช่วยนะ”โป่งตะโกนออกมาจากห้องครัว
“เออ พี่อิ๋งๆ ครับถ้าผมมาเป็นน้องเขยพี่ พี่จะต้อนรับไหมครับ”นัทพูด
“แปลว่าหมอคิดอะไรกับโป่งใช่ไหมเนี้ย”
“ก็ประมาณนั้นครับ”
“ได้ พี่ไม่ห้ามหรอกใครก็ได้ทั้งนั้น ขอให้รักยัยโป่งจริงๆก็พอ”
“ขอบคุณครับพี่”
ลูกโป่งยกกาแฟออกมาให้นัท
“ไปพี่อิ๋ง แบกพี่ฝ้ายกัน”ลูกโป่งพูด
อิ๋งๆกับลูกโป่งแบกปุยฝ้ายขึ้นไปบนห้องอย่างทุลักทุเล
ในห้องนอนของสามสาว
“ลูกโป่งพี่คุยด้วยก่อนแปปนึงได้ไหม”
“อะไรหรอพี่”
“เมื่อกี้หมอนัทเค้าคุยกับพี่ เค้าชอบแกนะโป่ง”
“จริงหรอ”
“ใช่ แล้วแกชอบเขาหรือเปล่า”
“ก็
ก็”
“ถามหัวใจตัวเองให้ดีนะลูกโป่ง แกกับหมอนัทน่ะ รักกันได้ อย่าทำให้ตัวเองต้องเจ็บช้ำ ถ้าลูกโป่งรักเค้าพี่ก็ไม่ห้ามนะ”
“ค่ะพี่อิ๋ง”
ลูกโป่งเดินลงไปหามอนัท
“อย่าเป็นแบบพี่นะลูกโป่ง ที่ทำตามหัวใจตัวเองไม่ได้”อิ๋งๆร้องไห้ออกมาเงียบๆ
“ทำไมคุณไม่ปลุกปุยฝ้ายล่ะครับ แบกขึ้นไปทำไมให้ลำบาก”
“พี่ฝ้ายน่ะถ้าหลับแล้วหลับเลย ปลุกให้ตายก็ไม่ตื่นหรอก”
“ปุยฝ้ายเค้าเป็นอินทีเรียหรือเปล่าครับ”
“ใช่ค่ะหมอนัทรู้ได้คะ”
“ก็น้องชายผม เค้าจีบอยู่น่ะสิครับ”
“แปลว่าหมอนัทเป็นพี่ชายของพี่ต้อล ใช่ไหมคะ”
“ใช่ครับ โลกกลมจริงๆเลยนะ ผมขอตัวก่อนนะครับอยากกลับไปนอนที่บ้านแล้ว”นัทเดินไปที่รถ
“ขับรถดีๆนะคะหมอนัท”ลูกโป่งเดินมาส่ง
ตอนที่ 5 รักเธอ
ต้อลขับรถมาที่บ้านของปุยฝ้าย
“พี่อิ๋งๆกับลูกโป่งไม่ว่างมีฝ้ายว่างคนเดียว ต้อลจะไปไหม”
“ยังไงผมก็ไปครับ”ต้อลเปิดประตูรถให้ปุยฝ้าย
มหาลัย
จบชั่วโมงเรียนของมิวสิคที่สอนโดยเอี่ยว
นักศึกษาคนอื่นรีบเดินกลับบ้าน
“มิวสิค ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”เอี่ยวเรียกมิวสิคไว้
“ครูมีอะไร”
“กลับไปหาอิ๋งๆเถอะ”
“ทำไมผมต้องกลับไปหาเค้าด้วย”
“เพราะว่าฉันกับอิ๋งๆไม่ได้มีอะไรกัน อิ๋งๆไม่ได้รักฉัน คนที่อิ๋งรักมีคนเดียวคือนาย”
“แล้วทำไมเค้าต้องปิดบังผมด้วย”
“เพราะเค้ารู้คิดว่ามันเป็นไปไม่ได้”
“ผมควรทำไง”
“ก็ทำทุกทางให้อิ๋งๆพูดความจริงว่าเค้ารักนาย ฉันมั่นใจว่าอิ๋ง หลอกหัวใจตัวเองได้ไม่นานหรอก”
มิวสิควิ่งหาอิ๋งๆทั่วมหาลัย แล้วก็มาเจอที่ลานจอดรถ
“ผมจะไม่ยอมให้ครูหนีไปไหนอีกแล้ว”มิวสิคพูด
“ครูบอกแล้วไงว่าอย่ามายุ่งกับครูอีก ครูมีแฟนแล้ว”
“อย่าหลอกผมเลย ครูเอี่ยวบอกความจริงกับผมหมดแล้ว ผมรักครูนะครับ”มิวสิคกอดรัดอิ๋งๆไม่ให้ไปไหน
“ขอร้องเถอะครับ อย่าทิ้งผมไป”อิ๋งๆหยุดขัดขืนแล้วหันมากอดเค้า
“มิวสิค ครูขอให้กอดนี้เป็นกอดสุดท้ายของเรานะ”น้ำตาของเธอและเค้าไหลออกมา
“ผมไม่ยอม เราจะไม่มีกอดสุดท้าย อาทิตย์หน้าผมจะรับปริญญาแล้ว ผมมีสิทธิ์ ในชีวิตของผม ผมจะขอมีครูคนเดียว ไว้ใจผมนะครับ”
อิ๋งๆทำท่าจะพูดแต่มิวสิคประกบปากของเค้าไว้กับเธออย่างแนบแน่น
นั้นคงเป็นคำตอบที่ดีที่สุด
เอี่ยวแอบมองดูอยู่ น้ำตาลูกผู้ชายของเขาไหลออกมา
“ฉันเป็นบ้าอะไรเนี้ย ทั้งๆที่รัก แต่ยกให้ไอเด็กนั้นซะงั้น อย่าเสียใจเลย ยังไงเราก็ตัดสินใจไปแล้ว ถ้าวันไหนมันทำให้อิ๋งเจ็บฉันจะเป็นคนแรกที่คอยเช็ดน้ำตาให้เธอ ลาก่อนผู้หญิงที่ฉันรักที่สุด โชคดีนะ”
ค่ายอาสาต่างจังหวัด
แพทย์และผู้ช่วยทุกคนต่างรักษาคนในชนบทกันอย่างขันแข็ง
“พี่หมอคะ ให้หนูพาไปเที่ยวแถวนี้ไหมคคะ”เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆพูดกับลูกโป่ง
“เดี๋ยวก่อนนะคะพี่ขอทำงานก่อนนะ”ลูกโป่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
“ลูกโป่งไปพักทานข้าวก่อนสิ หมอนัทก็ไปพักแล้วนะ”แคทเดินมาหาลูกโป่ง
“ไปด้วยกันนะ แคท”ลูกโป่งจูงมือกันไปทานข้าว
“หมอนัท ขอนั่งด้วยคนนะครับ”แจ็คพูด
“ตามสบายครับ”นัทพูด
“วันนั้นผมขอโทษนะครับที่บีบมือคุณแรงไปหน่อย”แจ็คพูด
“ผมไม่คิดอะไรหรอกครับ คนหวงของก็เป็นอย่างนี้แหล่ะ”
“แต่ผมไม่ได้คิดอะไรกับโป่งแล้วนะครับ”
“ไปคิดกับแคทแทนใช่ไหม”
“ครับ เอ๊ย หมอรู้ได้ไงอ่ะ”
“วันนั้นผมเข้าไปดูระบบไฟในห้องควบคุมแล้วก็เปิดกล้องวงจรปิดวันนั้นดู ท่าทางแคทคงจะอายไม่ใช่เล่นเลย”
“แล้ววันที่ไฟดับคุณกับโป่งเป็นไงบ้าง”
“ร้อน”
“ฮ๊า ร้อน”
“ไม่ใช่อย่างนั้น ผมกับโป่งติดอยู่ในลิฟต์ เลยร้อนเข้าใจไหมครับ”
“อ๋อ นึกว่าร้อนอย่างนั้น”
“หนุ่มๆคุยอะไรกันอยู่จ๊ะ”แคทถาม
“หมอนัทเผาอะไรโป่งป่าวเนี้ย”ลูกโป่งถาม
“พี่หมอคะ ไปกันได้ยังคะ”เด็กผู้หญิงคนเดิมพูดกับลูกโป่ง
“ไปไหนหรอลูกโป่ง”นัทถาม
“ไปเที่ยวแถวๆนี้แหล่ะค่ะ หมอนัทจะไปด้วยไหมคะ”
“ก็ดีครับ”
“น้องชื่ออะไรคะพี่จะได้เรียกถูก”ลูกโป่งถาม
“กระต่ายค่ะ”กระต่ายเดินลัดเลาะเข้าไปในป่า ยิ่งนานก็ยิ่งลึก
“หมอนัท หมอนัท น้องกระต่ายหายไปไหน”
“จริงด้วย”
“ฉันไม่คิดเลยนะว่านายจะแผนสูงขนาดเนี้ย ให้น้องเค้าพาหมอนัทกับลูกโป่งไปหลงป่า”แคทพูด
“ช่างเหอะ อย่างน้อยฉันก็ทำให้เค้าสองคนสมหวังไม่ใช่หรอ นั่นไงน้องกระต่ายออกมาแล้ว”แจ็คพูด
“เป็นไงบ้างกระต่าย”แจ็คถาม
“ตามแผนเป๊ะค่ะ”
“ดีมาก ดีมาก เอ้ารางวัล”แจ็คหยิบแบงค์20ให้กระต่าย
“แอ้ แอ้”
“อะไรยัยฝน”
“แก้เผ็ดยัยแคทกับหมอแจ็คไหม”
“ทำไงอะ”
“เดี๋ยวคอยดูแล้วกัน รับรองว่าเด็ด”
นัทกับลูกโป่งเดินมาเจอกระท่อมร้างแห่งหนึ่ง
นัทเข้าไปดูข้างใน
“ทำไงดีล่ะคะหมอนัท ยังออกไปไหม่ได้เลย มืดแล้วด้วย”
“ก็นอนที่กระท่อมนี้ซักคืนแล้วค่อยหาทางออกพรุ่งนี้”
“ได้ยังไงล่ะคะหมอนัท โป่งเป็นผู้หญิงนะมานอนกับผู้ชายสองต่อสองได้ไง”
“แต่เราไม่ได้มีอะไรกันนิ”
“แล้วคนอื่นเค้าจะคิดยังไงล่ะคะ”
“ถ้าเราบริสุทธิ์ใจ อะไรก็ไม่สำคัญหรอก”
“ยังไงๆโป่งก็เสียหายอยู่ดี”
“งั้นผมจะรับผิดชอบลูกโป่งเอง”
“หมอนัทอะ บ้า”ลูกโป่งเดินเข้าไปในกระท่อม
“แคทฉันขนกระเป๋าของเธอไปไว้ในบ้านแล้วนะ”แอ้พูด
“ขอบคุณ ว่าแต่หลังไหนอะ”
แอ้ชี้บ้านที่อยู่หลังริมสุดแล้วเดินจากไป
“แจ็ค ฝนขนกระเป๋าแจ็คไปไว้ที่บ้านให้แล้วนะ”
“ฝนไม่เห็นต้องลำบากเลยนะ ผมยกไปเองก็ได้”
“ไม่เป็นไรหรอก บ้านนายอยู่หลังนู้นนะ”
แคทเดินขึ้นบ้านที่แอ้บอก
“แอ้นี่ใจดีจังกางมุ้งไว้ให้ด้วย แล้วนั้นกระเป๋าใครอะ มีมุ่งเดียวด้วย คงไม่เป็นไร ยัยแอ้คงไม่ให้ฉันนอนกับผู้ชายหรอก”
แคทถอดเสื้อผ้าแล้วนุ่งผ้าขนหนูตัวเล็กจิ๋ว
แจ็คเปิดประตูเข้ามา
“ไอบ้า ออกไปเดี๋ยวนี้นะ”แคทขว้างปาข้าวของ
ขันน้ำใบหนึ่งลอยโดนหัวแจ็ตเต็มๆ
“ไปแล้วๆ”แจ็คปิดประตู แล้วนั่งกุมหัวอยู่
แคทรีบใส่เสื้อผ้าแล้วเดินออกไปหาแจ็ค
“นายเป็นไงบ้าง”
“ก็เจ็บน่ะสิ ขว้างมาได้”
“เข้าไปในบ้านก่อนสิ”
แคทลากแจ็คเข้าบ้าน
“นั่งรอก่อนนะเดี๋ยวฉันไปขอยาที่ค่าย”
แจ็คคว้าข้อมือของแคทไว้
“ไม่ต้องหรอก แค่นี้เองฉันทนได้”
“แน่ใจนะ”
“แน่ใจสิ จะไปอาบน้ำไม่ใช่หรอ งั้นฉันไปรอเธอที่ค่ายนะ”
แจ็คเดินออกจากบ้าน
“ทำไมมาแปลกจัง”
แคทเปลี่ยนเสื้อผ้า ลงไปอาบน้ำในห้องน้ำสังกะสีใต้ถุนบ้าน
“ลูกโป่งทำไมยังไม่นอนอะ ผมจะนอนแล้วนะ”
“หมอนัทนอนไปเถอะ ในนี้มีหมอนอยู่ใบเดียวจะให้นอนยังไงล่ะ ผ้าห่มก็ไม่มี”
“ก็มานอนข้างๆผมไง มาสิ”
“ปลอดภัยไหมเนี้ย”
“ผมไม่ทำอะไรอย่างนั้นหรอกหน่า”ลูกโป่งนอนลงบนหมอนใบเดียวกับนัท
ฝนตกกระหน่ำลงมาทำให้อากาศเย็นขึ้น
“หมอนัทโป่งหนาวจัง”
“เขยิบมานอนชิดๆกับผมสิ”
ลูกโป่งเขยิบตามแต่โดยดี
นัทกอดลูกโป่ง
“หมอกอดโป่งทำไมอะ”
“ก็หนาวไม่ใช่หรอ เค้าต้องกอดกันถึงจะหาย”
“ปล่อยโป่งเดี๋ยวนี้นะ”
“ไม่ปล่อย”
เค้าพลิกตัวทับร่างบางๆของเธอ
หน้าของเค้าห่างกับเธอไม่ถึงหนึ่งนิ้ว
ร่างกายของทั้งคู่ร้อนขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
“ลูกโป่ง ผมรักคุณ”นัทค่อยๆโน้มตัวลงไปจูบปากอันเรียวบางของเธอ อย่างแสนรัก เค้าค่อยๆลูบไล้ไปบนใบหน้าของเธออย่างเบามือ
“คุณรักผมบ้างไหม”นัทถอนริมฝีปากออกมา
“รักค่ะ”ลูกโป่งกระซิบเบาๆ
“นอนเถอะนะคะดึกมากแล้ว”นัทนอนลงบนหมอนตามเดิม
เค้าดึงตัวลูกโป่งมากอดไว้ นี่ช่างเป็นคืนที่วิเศษที่สุดสำหรับเค้าทั้งสองคน
แคทนอนในมุ้งด้วยความเหนื่อยล้า
แจ็คอาบน้ำแต่งตัวแล้วเข้าไปนอนข้างๆ
“ออกไปเดี๋ยวนี้นะ นายแจ็ค”
“ทำไมอะ”
“นายจะมานอนติดกับฉันได้ไง ไปนอนนอกมุ้งเลยไป”
“ไม่เอาอะยุงเยอะ”
“จะนอนในห้องนี้หรือจะนอนตากฝนข้างนอก”
“ก็ได้ๆแต่ขอเอาหัวเข้าไปได้หรือเปล่า เดี๋ยวหน้าหล่อๆของฉันจะโดนยุงกัด”
“แหวะ หลงตัวเองชะมัด คิดว่าหล่อนักหรือไง”
“หล่อไม่หล่อไม่รู้หรอก แต่อย่างน้องก็เคยจูบผู้หญิงมาก่อนแหละ”
“ไอบ้าๆๆ”แคทใช่หมอนตีแจ็ค
“พอได้แล้วฉันง่วงแล้วนอนๆ”
แคทหลับไปอย่างง่ายดาย และเป็นอีกครั้งที่แจ็คฉวยโอกาสเข้ามานอนในมุ้งเล็กๆ
ริมหาด
“ฝ้าย ต้อลขอนอนตักฝ้ายหน่อยได้ไหม”ต้อลพูดอ้อนๆ
“นะๆฝ้ายนะขับรถเมื่อยมาทั้งวันแล้ว”
“ก็ได้”
ตอนเอนตัวมาที่ตักของฝ้าย
“ที่นี้ดาวสวยมากเลยนะ ต้อล”
“ใช่สวยมากเลย”
“นานๆจะได้เห็นดาวเยอะแบบนี้”
“ต้อลไม่ได้หมายความว่าดาวสวยนะ แต่ฝ้ายต่างหากที่สวย”
“ต้อล สงสารคนอ่านหน่อยเหอะนะ เค้าหันไปอ๊วกแล้ว มุขเน่าชะมัดเลย”
“เน่าแล้วรักไหมครับ”
“รักสิ”
ต้อลลุกขึ้นนั่งแล้วจุ๊บแก้มใสๆของปุยฝ้ายเบาๆ
ตอนที่ 6 คุณแม่ครับ
นัทกลับมาจากค่ายอาสา เค้าตรงดิ่งไปหาแม่ทันที
“แม่ครับ หวัดดีครับ”
“ค่ายเป็นไงบ้าง”
“สนุกดีครับ แต่ผมมีเรื่องจะขออนุญาตแม่หน่อยอะครับ”
“เรื่องอะไรล่ะ”
“คือผมก็โตแล้ว มีงานทำแล้ว ผมแต่งานได้หรือยังครับแม่”
“แต่งหน่ะ แต่งได้แต่ยังไงก็พามาให้เห็นหน้าเห็นตากันก่อน แล้วแม่จะบอกเองว่าแต่งได้หรือไม่ได้”
“ครับแม่ ผมจะพามาที่บ้านให้เร็วที่สุดเลยครับ”
นัทยิ้มระรื่นเดินขึ้นห้อง
ต้อลกลับมาจากทะเล ก็ตรงเข้ามาหาแม่หมือนกัน
“แม่ครับผมมีเรื่องจะบอกอะครับ”
“อะไรอีกล่ะ”
“ผมพร้อมที่จะแต่งงานแล้วครับ”
“ลูกพร้อมที่จะแต่งงานกับหนูปองแล้วใช่ไหมลูก”
“ไม่ใช่ครับ”
“แล้วแต่งงานกับใคร”
“ผมรักปุยฝ้ายครับ ให้ผมได้แต่งงานกับเธอนะครับ”
“ไม่ ยังไงๆลูกก็ต้องแต่งงานกับปอง แม่ไม่ยอมเสียหน้าหรอก”
“ทั้งชีวิตที่ผ่านมาผมทำตามใจแม่ทุกอย่าง อยากให้ทำธุรกิจก่อสร้างผมก็ทำ แต่เรื่องนี้ผมขอเถอะนะครับ”
“กลับขึ้นไปคิดดีๆเถอะต้อลแล้วค่อยมาคุยกับแม่ใหม่”ต้อลจำใจขึ้นห้องนอนไปด้วยความกังวล
มิวสิคตรงเข้าไปหาแม่อีกคน
“แม่ครับ อาทิตยหน้า ผมก็เรียนจบแล้วนะครับ”
“แล้วมีอะไรล่ะ”
“ผมอยากแต่งงานครับ”
“ใครล่ะ”
“พอถึงวันรับปริญญา ผมจะแนะนำให้แม่รู้จักครับ”
คอนโด แคท
“นายไม่มีบ้านกลับหรือไงถึงต้องมาค้างคอนโดฉัน”แคททิ้งตัวลงบนโซฟา
“ฝนมันตกรถก็ติดขอค้างคืนนึงไม่ได้หรือไง”
“รถติดก็เรื่องของนายสิ”
“พรุ่งนี้มีผ่าตัดตอนเช้า บ้านฉันอยู่ไกล เดี๋ยวมาไม่ทัน”
“เออ ก็ได้ๆ”
“จะว่าไปแล้วที่นี้ก็ใกล้โรงพยาบาลดี ฉันมาซื้อบ้างดีกว่า ห้องติดๆกับเธอมีคนอยู่ยัง”
“เสียใจด้วยยะ เพิ่งมีคนมาซื้อไปเมื่อวานนี้เอง”
“อดเลย”
“นายนอนโซฟานี่นะฉันจะไปนอนในห้อง ห้ามเข้าไปด้วย”แคทเดินเข้าห้องนอนไป
แจ็คย่องเข้าไปเปิดประตู แต่ว่า ประตูล็อค
“ยัยถั่วงอกเอ๊ย”แจ็คพึมพำ
ตอนที่ 7 สีสันแห่งความรัก
โรงพยาบาล
“มันจะดีหรอคะหมอนัท”
“ดีสิ ลูกโป่งจะได้รู้จักกับพ่อแม่ผมไง”
“แต่”
“ไม่มีแต่ครับ เย็นนี้ผมจะไปรับลูกโป่งที่บ้าน แต่งตัวสวยๆนะครับ”
นัทหอมแก้มเธอเบาๆแล้วเดินออกไปทำงาน
------0899999999------
“ฮัลโล ปองพูดค่ะ”
“ปองหรอนี่ต้อลเองนะ”
“อ้าว ต้องมีอะไรหรอ ร้อยวันพันปีไม่เคยโทรมา”
“เรามีเรื่องต้องคุยกัน เจอกันที่ร้านอาหารร้านเดิมอะ หน้ามหาลัย”
“ได้ๆ เย็นนี้นะต้อล”
“อืมๆ”
มหาลัย
วันรับปริญญา
มิวสิคกำลังถ่ายรูปกับเพื่อนๆเค้าอยู่
“ยินดีด้วยนะ มิวสิค”อิ๋งๆยื่นช่อดอกไม้ให้มิวสิค
“ไม่มีให้ผมกับพะแพงบ้างหรอครับครู”ตี๋แซว
“ครูครับไปหาพ่อแม่ผมกันดีกว่า”มิวสิคจูงมืออิ๋งๆไปหาพ่อกับแม่เค้า
“พ่อครับ แม่ครับนี่อิ๋งๆครับ”
“สวัสดีค่ะ คุณพ่อคุณแม่”อิ๋งๆยกมือไหว้
“เธอเองหรอ อิ๋งๆที่มิวสิคพูดถึง เย็นนี้ ไปกินข้าวที่บ้านไหมล่ะ”
“ขอบคุณค่ะคุณแม่ หนูขอตัวก่อนนะคะ”อิ๋งๆเดินออกไปหานักศึกษาที่ขอถ่ายรูปด้วย
“แม่ว่าไงครับ ถ้าผมจะแต่งงานกับอิ๋งๆ”
“ก็ดีนะ น่ารักดี มารยาทก็ดี แต่เสียอย่างเดียวที่ อายุมากกว่าลูก”
“มันไม่เกี่ยวหรอกครับ แค่อายุต่างกันไม่กี่ปีผมรับได้ทุกอย่างครับ”
“งั้นก็ตามใจ ถ้าลูกมั่นใจว่าผู้หญิงคนนี้จะอยู่กับลูกตลอดไป”
“ขอบคุณครับแม่”
ร้านอาหารหน้ามหาลัย
“ปองนั่งก่อนสิ”
“ต้อลมีเรื่องจะคุยกับปองหรอ”
“ต้อลไม่ได้รักปอง เราถอนหมั้นกันเถอะ”
“แสดงว่าต้อลมีแฟนใหม่แล้ว”
“ใช่”
“ปองก็มีแฟนแล้วเหมือนกัน”
“งั้นก็ดีสิ เราไปบอกผู้ใหญ่กันนะ”
“ฮัลโล พี่อิ๋ง ฝ้ายมารอที่ร้านแล้วนะ”ฝ้ายนั่งลงบนโต๊ะ แล้วเธอก็หันไปเห็นต้อลนั่งกินข้าวอยู่กับปองหน้าระรื่น
“ต้อล”ปุยฝ้ายเดินมาหา
“ทำไมต้อลทำแบบนี้ ทำไมต้อลมากินข้าวกับคนอื่นล่ะ”ปุยฝ้ายน้ำตาปริ่ม
“ผมอธิบายทุกอย่างได้นะฝ้าย”ฝ้ายวิ่งออกจากร้าน ต้อลตามไปติดๆ
เธอเรียกรถแท็กซี่แล้วกลับบ้านไป
“ต้อล ปองขอโทษนะ”ปองเดินตามออกมา
“ไม่ใช่ความผิดของปองหรอก ต้อลต้องอธิบายให้ฝ้ายเข้าใจให้ได้”
บ้านสามหนุ่ม
“พ่อครับแม่ครับนี่ลูกโป่งครับ แฟนผม”นัทดอบไหล่ลูกโป่ง
“สวัสดีค่ะ”
“พ่อหิวแล้ว ทานกันเลยดีกว่า”
ทุกคนนั่งลงบนโต๊ะอาหาร
“แฟนพี่นัทมาก็ลืมผมเลยนะครับ”มิวสิคพาอิ๋งๆเข้ามาในบ้าน
“พี่อิ๋งมาได้ไงอะ”ลูกโป่งทำหน้าตกใจ
“รู้จักกันแล้วหรอครับ”มิวสิคงงๆ
คอนโดแคท
“เมื่อไรนายจะกลับบ้านเนี้ย อยู่บ้านคนอื่นฟรีได้ไง”
“แล้วเธอจะให้ฉันทำอะไรอะ”
“ออกค่าน้ำค่าไฟเดือนนี้ให้ฉันด้วย”
“แค่นี้เอง เดี๋ยวฉันออกให้”
“ดีมาก งั้นนายก็ตามสบายและกันถือว่าบ้านฉันเป็นบ้านนายเลยก็ได้”
“แคทเราก็รู้จักกันมาพักนึงแล้ว”
“แล้วไงอ่ะ”
“คือว่าฉัน มีอะไรจะบอกเธอ”
แคทบิดตัวไปมาด้วยความเขินอาย
“อะไรหรอ”แคทพูดเสียงหวาน
“ฉัน........ฉัน........ฉันไม่กล้าอะ”
“นายไม่พูดใช่ไหม ฉันพูดเองก็ได้นายพยักหน้านะถ้าใช่อะ”
“ก็ได้”
“นายอะรักฉัน”
“ใช่ๆ แล้วเธอล่ะ รักฉันหรือเปล่า”แคทหันหลังให้แจ็ค
“ก็รักสิ อีตาบ้า แค่นี้ดูไม่รู้หรือไงล่ะ”แคทยิมเขินๆ
“ฉันดีใจนะ ในที่สุดเราก็เข้าใจตรงกันซะที”แจ็คดึงแคทเข้ามากอดแล้วลูบหัวเธอเบาๆ
บ้านสามสาว
“ขอบคุณนะที่มาส่งเราสองคน”อิ๋งๆพูด
“ไม่เป็นไรครับ”มิวสิคกับนัทพูดพร้อมกัน
อิ๋งๆกับลูกโป่งเดินเข้าบ้าน
ตอนที่ 8 แน่ใจใช่ไหมว่ารัก
คอนโดกลางเมือง
“อิ๋งชอบที่นี้ไหม”มิวสิคถาม
“ก็สวยดีนะ”
“ถ้าผมจะซื้อที่นี้ให้เราอยู่ด้วยกัน คุณจะโอเคไหม”
“โอเคๆแล้วมิวชอบป่าวล่ะ”
“ชอบสิ”
“เราจะอยู่ที่นี้ด้วยกันนะ”
-----0819191919calling-----
“ฮัลโล ปุยฝ้ายพูดค่ะ”
“ฉันปองนะปุยฝ้าย”
“ปอง ฉันว่าคุณคงโทรผิดแล้วล่ะ”
“ไม่ผิดหรอก เธอต้องไปสนามบินนะ”
“ทำไมต้องไปด้วยล่ะ”
“ต้อลกำลังจะไปอังกฤษ เธอต้องไปตามเขา”
“ให้คนของเขาไปตามดีกว่าค่ะ”
“เธอฟังฉันพูดนะ วันนั้นที่ฉันไปกินข้าวกับต้อล เพื่อจะคุยกันเรื่องถอนหมั้น ฉันมีแฟนแล้ว ต้อลก็มีเธอ เราถึงมาตกลงกันไง ฉันหวังว่าเธอจะเข้าใจนะ รีบตามเค้าไปเถอะ”ปองวางสาย
“โจ้ดีใจนะที่ปองเลือกโจ้”โจ้พูด
“ก็ปองไม่ได้ชอบต้อลนิ ปองรักโจ้นะ”
ปุยฝ้ายนั่งรถแท็กซี่ไปสนามบิน
“ต้อลนายอย่าเพิ่งไปนะ นายต้องรอฉันก่อน”
ตลาดนัดจตุจักร
“แจ็ค แคทอยากได้ลูกแมว”
“ที่คอนโดเลี้ยงได้หรอ”
“ก็ไหนบอกว่าจะย้ายไปอยู่บ้านแจ็คไง”
“เธอจำห้องข้างๆที่ถูกคนซื้อไปไหม”
“จำได้ ทำไมอะ”
“ฉันเป็นคนซื้อเองแหล่ะ อย่าโกรธนะ”
แคทเดินหนีแจ็คไปที่รถ เธอปิดประตูไม่ให้แจ็คเข้า
แจ็คเดินกลับไปแล้วซื้อปลาทองมา 2 ตัว
“แคทเปิดเถอะนะ”
แคทเปิดประตูกระแทกตัวแจ็ค
“คอนโดเลี้ยงแมวไม่ได้แต่เลี้ยงปลาได้นิ”แจ็คพูด
“ก็ได้ๆยกโทษให้ก็ได้”
“งั้นกลับไปขนของกันนะ”
สนามบิน
ปุยฝ้ายวิ่งหาต้อลทั่วสนามบิน
“ต้อลลล ต้อลลล”ปุยฝ้ายตะโกนเรียก
ปุยฝ้ายวิ่งเข้าไปกอดต้อล
“นายอย่าไปนะต้อล ฝ้ายเข้าใจต้อลผิดเอง ฝ้ายขอโทษ”
น้ำตาของเธอไหลออกมาเป็นสาย เธอขาดเขาไปไม่ได้
“ฝ้ายไม่จำเป็นต้องขอโทษหรอก”
ปุยฝ้ายเงยหน้าขึ้นมา อย่างเศร้าๆ
“เพราะว่าต้อลไม่เคยโกรธฝ้ายเลยซักนิด”
ต้อลยิ้ม แล้วรวบตัวเธอเข้ามากอดไว้
“ฝ้ายแต่งงานกับต้อลนะ”ต้อลพูดจริงจัง
“ค่ะ ฝ้ายจะอยู่กับต้อล”
“ต้อลสัญญาว่าจะรักและดูแลฝ้ายตลอดไป”
โรงพยาบาล
เวรกลางดึก
“ลูกโป่งมาที่นี้ตั้งนานแล้ว ยังไม่ได้เข้าไปห้องดับจิตเลย อยากไปไหมเดี๋ยวหมอพาไป”นัทพูด
“อย่าดีกว่าค่ะ ลูกโป่งกลัว”
“เป็นหมอต้องไม่กลัวเข้าใจหรือเปล่า ไปๆมันไม่น่ากลัวหรอก”
“ไม่เอาอะหมอนัท โป่งไม่ไป”นัทลากแขนลูกโป่งเข้าไปในห้องดับจิต
“ไม่เห็นมีอะไรเลยลูกโป่ง”
“งั้นเรากลับกันเถอะนะคะ”
“รู้ไหมทำไมหมอพาโป่งมาที่นี้”
“ทำไมอะคะ”
“เพราะที่นี้ จะเป็นที่ที่ผมขอคุณแต่งงาน”
ลูกโป่งตัวแข็งทื่อ
“แต่งงานกับผมนะ ลูกโป่ง”นัทหยิบแวนเพชรเล็กๆออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
“ตอบผมสิครับ”
“ค่ะหมอนัท”ลูกโป่งพูดเสียงสั่น
นัทบรรจงสวมแหวนให้เธอ
“หมอนัทคะ ออกไปจากที่นี้กันเถอะค่ะลูกโป่งกลัว”
นัทยิ้มแล้วจูงมือเธอออกจากห้องดับจิต
ตอนที่ 9 พ่อแม่มือใหม่
“เด็กๆเรียบร้อยกันหน่อย”มิวสิคตวาดเด็กๆในโรงเรียนสอนดนตรีของเค้า
“มิวนี่จริงๆเลยบอกแล้วไงว่าอย่าว่าเด็ก”อิ๋งๆเดินเข้ามาว่ามิวสิคอีก
“จ้าๆไม่ว่าแล้ว”มิวพูดอย่างรำคาญ
เด็กนักเรียนในห้องหยิบปลาหมึกเต่าทองมากิน
“อย่าเอาอะไรมากินสิครับ ใช่ไหมอิ๋ง”
มิวหันไปเห็นอิ๋งๆกำลังทำท่าเหมือนจะอาเจียน เธอเอามือปิดปากแล้ววิ่งไปที่ห้องน้ำ มิวสิคมองตามไปอย่างงงๆ
“ปกติก็ไม่เห็นเหม็นปลาหมึกนี่นา หรือว่า !!!ไชโย!!! ฉันจะได้เป็นพ่อคนแล้ว รอก่อนครับ อิ๋งๆ”มิวสิควิ่งตามไปด้วยความดีใจ
“หมอแจ็คคะ เครื่องมือผ่าตัดพร้อมแล้วค่ะ”พยาบาลเรียกแจ็ค
“แล้วแคทล่ะไปไหน”แจ็คถาม
“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ”
“เดี๋ยวผมไปตามก่อนนะ”
“อย่าดีกว่าค่ะ ตอนนี้ได้เวลาผ่าตัดแล้วนะคะ”
3 ชั่วโมงผ่านไป
แจ็คเดินออกมาจากห้องผ่าตัดด้วยความหงุดหงิด
“น้ำฝนเห็นแคทไหม”แจ็คถามฝนที่ประชาสัมพันธ์
“อยู่ในห้องนายอะมั้ง”
“ขอบคุณนะ”
แจ็ควิ่งตรงไปที่ห้องของเค้า
“ออกมาได้ยิ้มหน้าบานแน่ๆคุณพ่อคนใหม่”น้ำฝนพูดยิ้มๆ
แจ็คเปิดประตูห้อง
“แคททำไมไม่ไปช่วยผมผ่าตัดล่ะ”
เธอหลับสนิทอยู่บนโซฟา
“หลับหรอกเหรอ”แจ็คโน้มตัวลงไปหอมแก้มเธอเบาๆ
เค้านั่งทำงานอยู่ในห้องจนเสียงหวานๆเอ่ยขึ้นมาเบาๆ
“แจ็ค นายมาตั้งแต่เมื่อไรอะ”แคทลุกขึ้นนั่งอย่างงัวเงีย
“มานานแล้วล่ะ หลับสนิทเลยนะ”แจ็คเดินมานั่งข้างๆแคทแล้วโอบกอดเธอไว้
“นายอยากมีลูกหรือเปล่า”แคทถามแจ็คด้วยความเขิน
“อยากสิอยากมากเลยล่ะ”แจ็คพูดอย่างดีใจ
“แจ็ค ประจำเดือนฉันไม่มา 3 เดือนแล้ว แล้วหลายวันนี้ก็เหม็นอะไรไปหมดเลย นายรู้ใช่ไหมว่ามันเป็นอาการของอะไร”แคทก้มหน้า
“ทะ ท้อง แคทฉันดีใจที่สุดเลย”แจ็คหอมแก้มแคทฟอดใหญ่ด้วยความดีใจ
“นายอยากได้ผู้หญิงหรือผู้ชาย”แคทถาม
“ผู้ชายก็ดีนะจะได้มาเป็นหมอเหมือนฉัน ถ้าเป็นผู้หญิงก็จะได้เป็นพยาบาลไง”
แจ็คพูดอย่างร่าเริง
“ฉันยังไงก็ได้ขอให้เค้าเกิดมาเป็นคนดีก็พอแล้ว”แคทพูด
“ฝ้ายโดนลงมาทำไม กำลังท้องอยู่อยากได้อะไรก็เรียกต้อลสิ”ต้อลวิ่งเข้าไปประคองปุยฝ้ายที่เดินลงบันไดไปนั่งที่โซฟาอย่างทุลักทุเล
“ขอต้อลเล่นกับลูกหน่อยสิ”ต้อลเอาหูแนบไปที่ท้องของปุยฝ้าย
“ต้อลน่าจะไปทำงานนะ มาดูแลฝ้ายอยู่ทำไมเสียเวลาเปล่า”
“ไม่ได้ๆ ถ้าต้อลไปทำงานแล้วใครจะอยู่ดูแลฝ้ายล่ะครับ”
“ฝ้ายว่าลูกคนนี้ต้องเป็นผู้ชายแน่เลย”
“ทำไมล่ะฝ้าย”
“ไม่รู้สิ แต่ว่าเวลาเค้าเตะท้องฝ้ายนะ เตะแรงมากเลย”
“งั้นก็คงจะเป็นลูกชายที่หล่อมากแน่ๆเลย พ่อก็หน้าตาดีแม่ก็สวย”
“ชมตัวเองอีกแล้วนะต้อลนะ”
“ลูกปัด อย่าไปเล่นเครื่องมือของคุณพ่อสิคะ”ลูกโป่งเรียกลูกสาวของเธอที่กำลังหยิบเครื่องมือแพทย์ออกมาเล่น
“ไม่เป็นไรหรอกลูกโป่ง ถ้าลูกอยากเล่นก็ให้เล่นเถอะ”นัทพูด
“โป่งว่านะคะ ลูกต้องเป็นหมออย่างเราสองคนแน่ๆเลย”นัทกับโป่งมองลูกสาวของเค้าและเธอ
“แต่ฉันอยากให้เป็นนักดนตรีมากกว่า บ้านเรามีแต่อาชีพเครียดๆ ผ่อนคลายซะบ้างก็ดี”
“หมอนัทยังไม่เข็ดอีกหรอคะ ตอนนั้นส่งไปเรียนไวโอลินตั้งหลายเดือน เล่นเป็นเพลงซะที่ไหน”
“นั้นสินะ”นัทขำเบาๆ
ตอนที่ 10 ลูกไม้ใต้ต้น
20 ปีต่อมา บ้านริมหาดของนัทกับลูกโป่ง
“ลูกปัด มาให้น้ากอดหน่อยซิ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน เป็นสาวแล้วนะ”แคทเรียกลูกปัดที่ตอนนี้อายุ22
“นานๆทีจะมาเที่ยวบ้านฉัน มาถึงก็เรียกหาหลานเลยนะ”นัทพูด
“ก็คุณพ่อกะคุณแม่ไม่ได้น่ารักเหมือนปัดแล้วน่ะสิ น้าแคทเลยไม่คิดถึง”ลูกปัดหันมาพูดกับพ่อแม่ของเธอ
“แล้วเจนกับเคนล่ะอยู่ไหน”ลูกโป่งถามแจ็ค
“มาแล้วครับคุณลุงคุณป้า”เคนแฝดชายคนพี่เดินเข้ามาพร้อมกับเจนแฝดหญิงคนน้อง อายุ 21
“เป็นหนุ่มเป็นสาวกันหมดแล้วสินะ”นัทพูด
“ลูกๆไปนั่งเล่นกันที่หาดเถอะ ผู้ใหญ่จะคุยกัน”แจ็คพูด
“ค่ะ/ครับ”
ทั้งสามคน เดินไปที่ชายหาด
“เจนขอไปห้องน้ำก่อนนะพี่เคนพี่ปัด”เจนเดินเข้าไปในบ้านทิ้งให้เคนกับปัดนั่งอยู่กันสองคน
“วันนี้พี่ปัดแต่งตัวน่ารักนะครับ”เคนพูดชม
“ก็วันนี้น้าแคทกับน้าแจ็คมา พี่ก็เลยต้องแต่งตัวสวยหน่อย”ลูกปัดยิ้มน้อยๆ
“ที่จริงพี่ปัดไม่ต้องแต่งมากหรอกครับ ยังไงก็น่ารัก”
ปัดผลักเคนออกไปให้ห่าง
พ่อแม่ทั้ง 4 คนนั่งคุยกันอยู่บนโต๊ะอาหาร
“ทำไมไม่ไปนั่งคุยกับพี่ๆเค้าล่ะเจน”แคทถาม
“ไม่อยากเป็นกว้างขวางคอพี่ๆเค้าค่ะ”
“!!!ฮ๊า!!!กว้างขวางคอ”ทั้ง4คนพูดขึ้นพร้อมกัน
“นี่พ่อกับแม่ไม่ร็เลยหรอคะ ว่าพี่เคนเค้าชอบพี่ปัด”เจนพูด
“ก็ไม่รู้น่ะสิลูก ถึงตกใจกันเนี้ย”ลูกโป่งพูด
“แต่ฉันว่าดีนะถ้าสองคนนี่เค้ารักกันจริงก็ให้แต่งกันไปเลย”แจ็คพูด
“แคทก็ไม่มีปัญหาหรอกนะ แต่นัทกับโป่งนี่สิจะหวงลูกสาวหรือเปล่า”
“อีกซัก 3 4 ปีค่อยแต่งดีกว่า”นัทพูด
“แปลว่านายยกลูกสาวให้ลูกชายฉันแล้วใช่ไหม”แจ็คพูดอย่างกระตือรือร้น
“อืมๆ”
“หมิง ป้อนข้าว ยังไม่นอนกันอีกหรอ”ปุยฝ้ายเปิดประตูห้องนอนของหมิงกับป้อนข้าว
“จะนอนแล้วค่ะแม่ ใช่ไหมหมิง”ป้อนข้าวพูดอย่างรำคาญ
“ค่ะคุณน้า เรากำลังจะนอนแล้ว”หมิงพูด
“จ้าๆ เออ หมิง พรุ่งนี้อย่าลืมปลุกป้อนข้าวไปมหาลัยด้วยกันนะ”ปุยฝ้ายพูดแล้วปิดประตู
“เป็นไงบ้างฝ้าย ยัยหมิงนอนหรือยัง”อิ๋งๆถามปุยฝ้าย
“จะนอนกันแล้วล่ะ”
ชีวิตของทั้ง 4 ครอบครัวได้ดำเนินไปเรื่อยๆ ตามทางที่หัวใจต้องการ
ผลงานอื่นๆ ของ LOVEAF ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ LOVEAF
ความคิดเห็น